สุรินทร์ เฮ! ผู้ว่า 2 ประเทศ เปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องจอมวันแรก ชื่นมื่น ผู้ว่าฯ เผย เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของทั้งสองประเทศ และยังคงยึดมาตรการป้องกันโควิด-19 ควบคู่
จากกรณีที่ทาง ศบค.และกระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือลงวันที่ 26 เม.ย.2565 แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดที่มีพื้นที่ติดแนวชายแดนให้ผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าออกของบุคคลผ่านช่องทางผ่านแดนทางบก และให้พิจารณาเปิดด่านผ่านแดนถาวรทางบก ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.65 เป็นต้นไปแบบเต็มรูปแบบ เพื่อรองรับมาตรการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของรัฐบาลนั้น ทำให้ด่านผ่านแดนหลายแห่งทั่วประเทศขานรับ และมีการเปิดด่านชายแดน “ช่องจอม” ต.ด่าน .กาบเชิง จ.สุรินทร์
ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ที่ 5 พ.ค.2565 เมื่อ เวลา 14.30 น.ที่ผ่านมาได้มีการประชุมกันระหว่า ผวจ.สุรินทร์ กับ ผวจ.อุดรมีช้ย กัมพูชา ที่ห้องประชุม หน่วยประสานงานชายแดนประจำพื้นที่ 2 สำนักงานประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา (สน.ปทก.) ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ที่ ด่านผ่านแดน “ช่องจอม” ต.ด่านอ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผวจ.สุรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ไทย-กัมพูชา บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม กับนายแปน โกะซอล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิเช่น ฝ่ายปกครอง อ.กาบเชิง, กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 , สาธารณสุข จ.สุรินทร์, ตรวจคนเข้าเมือง จ.สุรินทร์, ตำรวจภูธร, ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศช่องจอม ,ด่านศุลกากรช่องจอม และหน่วยงานในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องของหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งหัวหน้าส่วนราชการของฝั่งกัมพูชา เพื่อหารือถึงแนวทางและรับฟังอุปสรรคปัญหา เพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน และทำความเข้าใจถึงแนวทางมาตรการต่างๆของทั้ง 2 ประเทศ และเพื่อให้การบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วนเกิดประสิทธิภาพและเพื่อให้การบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วนเกิดประสิทธิภาพและดำเนินการเปิดด่านชายแดนตามมาตรการได้อย่างสะดวกไม่ติดขัด ซึ่งข้อตกลงร่วมกันของทั้ง 2 ประเทศ จะให้มีการเปิดด่านให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวข้ามแดน
โดยวันนี้ (6 พ.ค. 2565) พิธีเปิดอย่างเป็นทางการ เวลา 10.30 น. นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผวจ.สุรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์, กัมพูชา นายแปน โกะซอล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ได้ร่วมกันทำพิธีเปิดด่าน “ช่องจอม” ชายแดนไทย-กัมพูชาร่วมกัน เพื่อให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งได้เดินทางไป-มา หาสู่ ค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าซึ่งกันและกัน และนักท่องเที่ยว ประชาชนทั่วไป จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น
นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผวจ.สุรินทร์ กล่าวภายหลังประชุมว่า จ.อุดรมีชัย และ จ.สุรินทร์ ก็ได้เอากติกากลาง ที่ได้รับอำนาจจากรัฐบาล ให้เปิดด่านผ่านแดน “ช่องจอม” เพื่อให้ประชาชนทั้ง 2 ฝ่ายได้ไปมาหาสู่กันอย่างปรกติ โดยใช้หลักเกณฑ์อย่างที่ทางรัฐบาลทั้ง 2 ฝ่ายอนุญาต ให้ทำได้ในเบื้องต้นก่อน ในส่วนอะไรที่ขัดข้องและมีความไม่สะดวก และเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทางทั้ง 2 ฝ่ายก็รับที่จะไปหารือกับหน่วยเหนือเพื่อผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เพื่อให้การผ่านแดน ของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย กลับมาเหมือนสมัยที่ไม่มีโควิด และตกลงกันว่าจะเปิดจุดชายแดนพรุ่งนี้เลย เวลา 10.30 น.ทั้ง 2 ฝ่ายก็มาร่วมกันเปิด “ด่านผ่านแดน “ช่องจอม” เพื่อให้ประชาชนได้เดินทางเข้าออกร่วมกัน
การเดินทางเข้า-ออกของประชาชนชาวกัมพูชา ที่ใช้บอเดอร์พาส เมื่อก่อนเข้ามาได้ 7 วัน ตอนนี้ทางรัฐบาลไทย กำหนดให้เข้ามาได้แค่ 3 วัน ทาง จ.อุดรมีชัย บอกว่า บางทีประชาชนกัมพูชาเข้ามาหาหมอ การรักษาพยาบาลอาจจะต้องใช้เวลายาวนานกว่านั้น ก็อาจจะทำให้ประชาชนไม่สะดวก ก็เลยอยากจะขอเพิ่มวัน เบื้องต้นจะขอเพิ่มเป็น 5 วัน ซึ่งฝั่ง จ.อุดรมีชัย ยืนยันว่า ประชาชนชาวกัมพูชา ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม ทั้งหมดทุกคนแล้ว ส่วน จ.สุรินทร์ เอง ก็ฉีดเกิน 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องการฉีดวัคซีนของทั้ง 2 จังหวัด ไม่น่ากังวล เพียงแต่ว่าในเรื่องของการตรวจสอบเอกสารเท่านั้นเองที่จะต้องใช้ความละเอียด ใช้วิชาชีพทั้ง 2 ผวจ.สุรินทร์ กล่าว
นายแปน โกะซอล ผวจ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา กล่าวว่า ตนเองอยากให้มีการเปิดด่านเข้าออกได้เช่นเดิม โดยเฉพาะชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาจากฝั่งไทย ที่ต้องการข้ามแดนไปยังกัมพูชา ก็จะเพิ่มเติมในเรื่องใบรับรองการฉีดวัคซีนเท่านั้น ไม่มีมาตรการอะไรมาก หากไม่ได้ฉีดวัคซีนก็จะต้องกักตัวตามมาตรการของการควบคุมโรคเชื้อไวรัสโควิค-19 เป็นการทดลอง 1-2 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน เมื่อมีมาตรการอะไรเพิ่มเติมเพื่อผ่อนคลายให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศ ก็จะมีการประชุมหารือกันแก้ไขเป็นระยะๆต่อไป ซึ่งประชาชนชาวกัมพูชาห่างเหินกับฝั่งไทยมา 3 ปีแล้ว ประชาชนชาวกัมพูชาก็คิดถึงอาหารไทย คิดถึงการไปมาหาสู่กัน บางคนเจอกันแต่ในโลกออนไลน์ ผวจ.อุดรมีชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่รัฐบาลไทยกำหนด ประกอบด้วย หากเป็นคนไทยจะต้องลงทะเบียนผ่านระบบ (https://land.tp.consular.go.th/home) พร้อมแสดงผลตรวจ ATK ภายใน 72 ชั่วโมง หากผลตรวจเป็นลบจะได้เข้าสู่กระบวนการตรวจคนเข้าเมืองตามปกติ แต่หากเป็นชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย จะต้องมีประกันภัยวงเงิน 10,000 US เพิ่มเข้ามาอีก 1 ขั้นตอน และหากชาวต่างชาติใช้บอเดอร์พาสในการผ่านแดนจะอยู่ได้ตามพื้นที่ที่กำหนดในระยะเวลาไม่เกิน 3 วัน
ทั้งนี้ เงื่อนไขการเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านจุดผ่านแดนถาวร 31 จุดใน 17 จังหวัดทั่งประเทศมีข้อกำหนดว่า ผู้มีสัญชาติไทยต้องเป็นผู้ที่ฉีดวัคซีนครบตามกำหนด และตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วย ATK ผลเป็นลบสามารถเดินทางเข้าราชอาณาจักรได้โดยไม่ต้องกักตัว หากพบเชื้อให้ส่งเข้ารับการรักษาตามสิทธิ ส่วนผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนครบตามกำหนด ต้องตรวจหาเชื้อและกักตัว 5 วัน หากพบเชื้อให้ส่งรักษาตามสิทธิ คนไทยมีวัคซีนครบเข้าได้เลย ต่างต้องชาติลงทะเบียน Thailand Pass และสำหรับผู้ไม่มีสัญชาติไทยโดยเฉพาะชาวกัมพูชา และสัญชาติอื่นๆ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ผู้เดินทางแบบระยะยาว พำนักในไทยมากกว่า 3 วัน ต้องเป็นผู้ฉีดวัคซีนครบตามกำหนด มีเอกสารการลงทะเบียน หนังสือเดินทางครบถ้วน และตรวจหาเชื้อด้วย ATK ไม่พบเชื้อ สามารถเดินทางเข้ามาได้โดยไม่ต้องกักตัว โดยสามารถเดินทางได้ทั่วราชอาณาจักร
ขณะที่ผู้ที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน ต้องลงทะเบียนผ่านระบบ Thailand Pass มีหนังสือเดินทาง และตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วย ATK ไม่มีเชื้อ สามารถเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ โดยต้องกักตัว 5 วัน หากพบเชื้อส่งรักษาตามข้อตกลงเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายระหว่างโรงแรม หรือสถานที่พักกับผู้เดินทาง ยกเว้นผู้ที่มีผลตรวจด้วย RT-PCR ก่อนเดินทาง 72 ชั่วโมงว่าไม่พบเชื้อ สามารถเดินทางเข้าราชอาณาจักรโดยไม่ต้องกักตัว และสามารถเดินทางไปได้ทั่วราชอาณาจักร ขณะเดียวกัน ผู้ที่เดินทางแบบระยะสั้นพำนักอยู่ไทยไม่เกิน 3 วัน