เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จุดผ่านแดนไทย – กัมพูชาช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษ กล่าวว่า วันนี้ดีใจที่ได้ร่วมไปต้อนรับคณะของนายแปน โก๊ะซอล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชาที่ด่านช่องสะงำ ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเดินทางมาปรึกษาหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษเพื่อหาผลสรุปถึงมาตรการต่างๆร่วมกัน ในการที่จะเปิดด่านผ่านแดนช่องสะงำ และได้ร่วมสังเกตการณ์ในที่ประชุมด้วย ตนรู้สึกประทับใจที่ผู้ว่าฯจังหวัดอุดรมีชัย แปน โก๊ะซอล จากประเทศกัมพูชา ได้ตัดสินใจเปิดด่านในวันนี้ทันที ท่านบอกว่าทางกัมพูชาพร้อมแล้วที่จะรับคณะจากประเทศไทย และท่านได้ฝากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษทำหนังสือขอหน่วยเหนือให้ขยายเวลาการเปิดด่านจากเดิมที่เปิดเวลา 07.00 น.- 20.00 น. ขอให้ขยายเวลาออกไปเป็นเวลา 07.00น.-22.00น.
ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ นายกสมาคมส่งเสริมเครือข่ายการท่องเที่ยวศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า โดยในที่ประชุมทั้ง 2 ฝ่าย ก็ได้มีมติร่วมกันในการเปิดจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำในวันนี้เลย โดยให้ใช้หลักเกณฑ์ตามที่รัฐบาลทั้ง 2 ฝ่ายกำหนด และในที่ประชุมครั้งนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษได้สร้างความเข้าใจให้ทางฝั่งกัมพูชาเข้าใจถูกต้องเกี่ยวกับการที่ต่างชาติต้องเสียเงินค่าประกัน ซึ่งตอนแรกมีความเข้าใจว่าต้องเสียเงิน 10,000 เหรียญ แต่ทางสาธารณสุขจากฝั่งประเทศไทยได้ให้รายละเอียดว่าการประกันครอบคลุมเงิน10,000 เหรียญในการรักษาพยาบาล ซึ่งเสียค่าเบี้ยประกันประมาณ 500 บาทเท่านั้น ทำให้ผู้ว่าฯอุดรมีชัยบอกว่าจะได้นำไปอธิบายให้ทางกัมพูชาเข้าใจ จะได้ไปมาหาสู่กันได้ปกติเพราะไม่ใช่ต้องหาเงินจ่ายเป็น 10,000 เหรียญ ตนขอชื่นชมผู้ว่าศรีสะเกษกับผู้ว่าอุดรมีชัยที่ได้ประกาศเปิดด่านช่องสะงำ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการค้าและการท่องเที่ยวหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 คลี่คลายแล้ว