ผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ย้ำทุกคนต้องร่วมมือสวมหน้ากากอนามัย ต้องรู้หน้าที่ของตนเอง รักตนเอง รักคนรอบข้าง เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ ขณะที่ปฏิบัติการจังหวัดกาฬสินธุ์ร่วมกันทั้งตำรวจทหาร ฝ่ายปกครองสาธารณสุข ตรวจรถ วัดไข้ ที่จุดคัดกรองด่านรอยต่อข้ามจังหวัด ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ขอความร่วมมือ แต่ทุกคนต้องทำ
เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2563 นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายจารึก เหล่าประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายธวัชชัย รอดงาม ปลัดจังหวัดกาฬสินธุ์ พันเอกพรชัย มาหลิน รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดกาฬสินธุ์ หัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจเยี่ยม ให้กำลังใจ การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ บริเวณจุดตรวจคัดกรองการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ COVID-19 ที่อยู่ติดพื้นที่รอยต่อกับจังหวัดข้างเคียง
โดยเป็นการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างตำรวจทหาร ฝ่ายปกครองอำเภอ สาธารณสุขอำเภอ สำนักงานขนส่ง ร่วมกันคัดกรองประชาชนที่เดินทาง เข้า-ออก ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ COVID-19 รวม 6 จุด
จากนั้นเวลา 16.00 น.นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสนั่น พงษ์อักษร รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมกันแถลงสถานการณ์และการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
นายชัยธวัช เนียมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ปัจจุบันยังนิ่ง มีผู้ป่วยยืนยัน 2 คน ผู้ที่เข้าข่ายสอบสวนโรคสะสม 49 คน ผลการตรวจหาเชื้อ ไม่พบเชื้อ 45 คน รอผล 2 คน โดยกลุ่มผู้ที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯและปริมณฑลจนถึงขณะนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 5,944 คน ในส่วนการตั้งจุดคัดกรองประชาชน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 เพราะมีการเดินทางผ่านเส้นทางจังหวัดข้างเคียง เข้าสู่จังหวัดกาฬสินธุ์ อาจไม่ได้รับความสะดวก แต่เน้นความปลอดภัย โดยจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้กำชับให้ทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรฐานของการตรวจคัดกรอง หากมีไข้ต้องเข้ารับการรักษา หากเดินทางจากพื้นที่เสี่ยงต้องกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย ต้องรู้หน้าที่ของตนเอง รักตนเอง รักคนรอบข้าง เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ ไปด้วยกัน