เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดป่าพิมลมังคลาราม ต.ทุ่งไชย อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ติดกับลำห้วยสำราญ ปรากฏว่า น้ำจากลำห้วยสำราญได้ไหลทะลักเข้าไปท่วมบริเวณวัด ทำให้กุฏิพระจมอยู่ใต้น้ำทั้งหมด พระสงฆ์ต้องพากันเก็บเครื่องอัฐบริขารข้าวของต่าง ๆ ขึ้นไปไว้บนศาลาวัดกันอย่างโกลาหลและต้องจำวัดอยู่บนชั้น 2 ของศาลาวัด โดยน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากมากทำให้สิ่งของต่าง ๆ ของวัดถูกน้ำพัดลอยหายไปตามสายน้ำจำนวนมาก ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 2 เมตรเศษ ทำให้พระสงฆ์ที่มีอยู่จำนวน 10 รูปได้รับความเดือดร้อนมาก เนื่องจากว่าไม่สามารถที่จะออกไปบิณฑบาตได้ ต้นไม้ดอกไม้ที่ปลูกไว้อย่างสวยงามเพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่มาปฏิบัติธรรมได้มาชมจมอยู่ใต้น้ำนานหลายวันแล้ว ขณะที่ ปภ.ศรีสะเกษ ได้นำเอาเรือท้องแบนพร้อมเครื่องยนต์มาไว้ที่บริเวณปากทางเข้าวัดแห่งนี้ เพื่อให้บริการพระสงฆ์และประชาชนชาวบ้านโนนแดงโนนม่วง ได้ใช้เป็นพาหนะในการเดินทางเข้าวัดและหมู่บ้าน
ต่อมา นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ และนางมัลลิกา พุฒิชาติ นายกเหล่ากาชาดศรีสะเกษ ได้รับทราบเรื่องนี้ มีความห่วงใยพระสงฆ์ที่วัดแห่งนี้เป็นอย่างมาก ดังนั้น จึงได้มอบหมายให้ นายทนงศักดิ์ อุทุม ผู้ทรงคุณวุฒิคุ้มครองเด็ก จ.ศรีสะเกษ นักจิตวิทยาและสังคมสงเคราะห์ กระทรวงยุติธรรม ได้นำเอาถุงยังชีพของเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 10 ถุงประกอบด้วยข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำปลา น้ำมันพืช และพระครูสิริคณาภิรักษ์ เจ้าคณะอำเภอยางชุมน้อย ได้มีจิตเมตตาห่วงใยคณะสงฆ์ของวัดป่าพิมลมังคลาราม จึงได้นำเอาน้ำดื่ม จำนวน 12 แพ็ค มาถวายแด่ พระมหาสมัย ปัญญาวโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าพิมลมังคลาราม เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น
พระมหาสมัย ปัญญาวโร รักษาการเจ้าอาวาสวัดป่าพิมลมังคลาราม กล่าวว่า วัดป่าพิมลมังคลาราม ถูกน้ำจากลำห้วยสำราญไหลเข้ามาท่วมตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย. 65 เป็นต้นมา น้ำไหลเชี่ยวมาก คณะสงฆ์ได้ช่วยกันเก็บสิ่งของหนีน้ำท่วมขึ้นไปไว้บนศาลาวัด แต่ว่ามีสิ่งของที่เป็นของวัดถูกน้ำพัดหายไปจำนวนมาก พระสงฆ์ไม่สามารถที่จะออกไปบิณฑบาตได้ แต่ว่าได้รับปิ่นโตจากญาติโยมที่นำเอาภัตตาหารมาถวาย และได้รับสิ่งของจากทางราชการที่นำเอามาช่วยเหลือ อาตมาภาพขอขอบคุณโยมวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ และคณะ ที่ได้นำเอาถุงยังชีพมาถวายแด่คณะสงฆ์ที่ประสบภัยน้ำท่วมในครั้งนี้