ศรีสะเกษ คืบหน้า 2 ตายายโดนน้ำพัดจมน้ำพบทั้ง 2 ศพแล้ว ลูกชายเศร้าเสียใจมากเผย 2 ตายายตักบาตรพระทุกเช้าแล้วจะไปเลี้ยงหลานให้เพราะว่าตนและภรรยาเป็นครูต้องไปสอนเด็กนักเรียน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายสุวรรณ ยาศรี อายุ 80 ปี และ นางข่อง ยาศรี อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 10 บ้านหนองแวงใต้ ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ 2 ตายายเป็นสามีภรรยากัน ได้ขับขี่รถ จยย.ลุยลงไปในบริเวณฝายน้ำล้นบ้านหนองแวง ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ และได้ถูกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากพัดจมน้ำหายไปพร้อมด้วยรถ จยย. ต่อมาเช้าวันนี้ (30 ก.ย.65) นายภัทรพล สารการ นายอำเภอโนนคูณ พร้อมด้วย นายไพฑูรย์ อักโข นายก อบต.หนองกุง กำนัน ต.หนองกุง ได้นำผู้นำชุมชน ชาวบ้านและญาติพี่น้องของ 2 ตายาย ที่จมน้ำหายไปตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันที่ 29 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา โดยได้มีการระดมชาวบ้านมาช่วยกันตามหาบริเวณฝายน้ำล้นและเดินค้นหาไปตาม 2 ข้างฝายน้ำล้น ตามเส้นทางที่น้ำไหลไป พร้อมทั้งมีการลุยค้นหาในฝายน้ำล้น ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 30 ก.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ฝายน้ำล้นบ้านหนองแวง ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ นายไพฑูรย์ อักโข นายก อบต.หนองกุง พร้อมด้วย กำนัน ต.หนองกุง ได้นำผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสารณภัย อบต.หนองกุง เจ้าหน้าที่ อปพร. เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยศรีสะเกษร่วมใจ อ.โนนคูณ ชาวบ้านและญาติพี่น้องของ นายสุวรรณ ยาศรี อายุ 80 ปี และ นางข่อง ยาศรี อายุ 71 ปี 2 ตายายที่โดนกระแสน้ำที่ฝายน้ำล้นพัดหายไป โดยมีการระดมค้นหาตาม 2 ข้างลำห้วย และระดมค้นหาในน้ำใกล้กับฝายน้ำล้น จนกระทั่งเวลาประมาณ 12.30 น.วันเดียวกันนี้ ได้พบศพของ นางข่อง ยาศรี ที่จมน้ำหายไป โดยพบศพอยู่ในน้ำห่างจากจุดที่เกิดเหตุประมาณ 2 กม. ชาวบ้านจึงได้ช่วยกันนำศพขึ้นมาบนฝั่งและใช้ผ้ามาห่อร่างของนางข่อง เอาไว้ ซึ่งเมื่อลูกหลานเห็นนางข่องเสียชีวิตแล้ว ได้พากันร้องไห้เข้าไปกอดศพคร่ำครวญอย่างน่าเวทนา จากนั้น ได้แจ้งให้ ร.ต.อ.วิษณุ วงษ์ณรงค์ ร้อยเวร สภ.โนนคูณ พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.โนนคูณ มาทำการชันสูตรพลิกศพ ซึ่งญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงได้มอบศพให้ญาตินำเอาไปตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดบ้านหนองแวง
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า การค้นหายังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเวลาประมาณ 17.00 น. จึงพบร่างของนายนายสุวรรณ ยาศรี ลอยอยู่ในน้ำติดกับกอไผ่ ห่างจากฝายน้ำล้นที่เกิดเหตุประมาณ 1.5 กม. เจ้าหน้าที่และชาวบ้านจึงได้ช่วยกันนำร่างของนายสุวรรณขึ้นมาจากน้ำ จากนั้น ร.ต.อ.วิษณุ วงษ์ณรงค์ ร้อยเวร สภ.โนนคูณ ได้มาทำการตรวจสอบสภาพศพไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้ายทำให้เสียชีวิตแต่อย่างใด จึงได้ขอให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยศรีสะเกษร่วมใจ นำศพของนายสุวรรณ ส่งไปที่ รพ.โนนคูณ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรศพหาสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงได้มอบศพนายสุวรรณ ให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดบ้านหนองแวง ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ ต่อไป
นายกิตติชัย ยาศรี อายุ 38 ปี ข้าราชการครู ร.ร.มัธยมศึกษาแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นลูกชายของ 2 ตายาย กล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าโศกเสียใจอย่างหนักว่า ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์หลังจากที่พ่อกับแม่ตักบาตรตอนเช้าเสร็จแล้ว ก็จะไปช่วยเลี้ยงหลานซึ่งเป็นลูกของตน เพราะว่าตนกับภรรยาต้องแยกย้ายกันไปทำการสอนไปทำงานที่โรงเรียน ก็จะได้พ่อกับแม่เป็นคนช่วยดูแลลูก เพราะช่วงเย็นพอภรรยากลับมาพ่อกับแม่ของตนถึงจะได้พากันกลับมาบ้าน ประมาณ 4 โมงเย็นทุกวัน ในวันเกิดเหตุวันนั้นภรรยาของตนน่าจะสอบเด็กนักเรียนเสร็จเร็ว จึงได้กลับบ้านมาก่อนช่วงเวลาประมาณบ่าย 3 โมงเศษ จึงได้ให้ปู่กับย่ากลับซึ่งภรรยาของตนได้บอกปู่และย่าว่า ฝายน้ำล้นหนองแวงน้ำไหลแรงให้กลับอีกทางหนึ่งก็คือกลับทางบ้านโนนรัง ซึ่งตอนจะออกจากบ้านของตนปู่กับย่า บอกว่าไม่ต้องบอกเพราะว่า ปู่กับย่าจะกลับทางบ้านโนนรัง แต่ไม่รู้ว่าอะไรดลใจถึงทำให้ปู่กับย่าขับรถ จยย.ไปทางฝายน้ำล้นแห่งนี้ ตำรวจบอกว่าพบศพคุณพ่อเวลาประมาณ 16.30 น. ส่วนคุณแม่ช่วงเวลาที่พบศพประมาณเที่ยงเศษ เพราะว่าเป็นช่วงที่ใกล้จะพักกินข้าวกันแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ตนไม่รู้ว่าจะพูดยังไงแล้ว เพราะว่าต้องสูญเสียพ่อแม่ไปพร้อมกันทั้ง 2 คนโดยที่ไม่ได้สั่งเสียอะไรเลย ส่วนการกำหนดวันประกอบพิธีทางศาสนานั้นยังไม่ได้หารือกันกับญาติพี่น้อง อาจจะตั้งศพ 3 วัน 5 วันหรือ7 วันก็ได้ เพราะว่า พ่อของตนเป็นรองมัคทายกอยู่ที่วัดบ้านหนองแวง หลังจากแพทย์ชันสูตรศพเสร็จแล้วก็จะนำศพของพ่อไปตั้งศพคู่กันกับศพแม่ สวดพระอภิธรรมศพวันแรกที่วัดบ้านหนองแวงต่อไป