พายุ “โนรู”เติมน้ำเขื่อนลำปาวเพิ่ม 200 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้ล่าสุดมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 85 เปอร์เซ็นต์ ยังรับน้ำได้อีกกว่า 300 ล้านบาศก์เมตร ขณะที่รองผู้ว่าฯกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำที่ได้รับผลกระทบจากพายุโนรู พร้อทกำชับทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือมวลน้ำจากขอนแก่น
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากอิทธิพลพายุ “โนรู”เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งหลายพื้นที่มีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้แหล่งน้ำต่างๆมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ถึงแม้พายุโนรูจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ และยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่องอีก ทำให้ทุกหน่วยยังต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ล่าสุดมีรายงานว่า นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจและติดตามการระบายน้ำเขื่อนลำปาว หลังสถานการณ์พายุโนรูคลี่คลาย ซึ่งล่าสุดมีน้ำไหลเข้าเขื่อนปาวเพิ่มอีก 47 ล้าน ลบ.ม. ทำให้ปัจจุบันมีปริมาณน้ำอยู่ที่ 1,686 ล้าน ลบ.ม.จากความจุกักเก็บ 1,980 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็นร้อยละ 85 ซึ่งยังสามารถรับได้น้ำได้อีกร้อยละ 294 ล้าน ลบ.ม.ระบายน้ำเฉลี่ยวันละ 2.6 ล้าน ลบ.ม.ทั้งนี้ในช่วงพายุโนรูตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน 2565 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน 2 ตุลาคม 2565 มีน้ำไหลเข้าเขื่อน 205 ล้าน ลบ.ม.
นอกจากนี้นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ยังได้ลงพื้นที่บ้านหนองหวาย อำเภอฆ้องชัย ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่อยู่ติดกับลำน้ำชี และเป็นพื้นที่ราบลุ่ม โดยได้เยี่ยมเยียนและติดตามชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ 7 ครัวเรือน ล่าสุดจากการสำรวจมีสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง 4 อำเภอ อำเภอร่องคำ อำเภอฆ้องชัย อำเภอกมลาไสย และอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ 14 ตำบล อย่างไรก็ตามจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เตรียมพร้อมจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่งคราว ในพื้นที่ รวม 37 แห่ง เพื่อรองรับและเตรียมความพร้อมกรณีน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน
นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนลำปาวยังมีต่อเนื่อง แม้ระดับน้ำเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังต่ำกว่าเกณฑ์ควบคุมระดับน้ำสูงสุด (upper) 1.20 เมตร ซึ่งสามารถรับน้ำได้อีก 294 ล้าน ลบ.ม. และจากข้อมูลของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาที่คาดว่าในช่วงนี้จะไม่มีพายุ ซึ่งมีแค่มรสุมปกติตามฤดูกาล ทำให้สถานการณ์น้ำเข้าสู่ภาวะปกติ โดยทางเขื่อนลำปาวได้มีการบริหารจัดการน้ำในการระบายน้ำอย่างเป็นระบบและมีการระบายน้ำในการรักษาระบบนิเวศน์วิทยา
ขณะที่สถานการณ์น้ำแม่น้ำชีใน จ.กาฬสินธุ์ มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยสถานการณ์น้ำลำน้ำชี เขื่อนวังยาง ระดับน้ำหน้าเขื่อน อยู่ที่ 140.65 เมตรระดับน้ำทะเลปานกลาง(ม.รทก.)จากระดับกักเก็บ 137 ม.รทก.ยังปักธงแดงเตือนเข้าสูวิกฤติ อย่างไรก็ตามในส่วนมวลน้ำที่จะไหลมาจากจังหวัดขอนแก่นจะเดินทางมาถึงจังหวัดกาฬสินธุ์นั้นคาดว่าในอีก 5 วันข้างหน้าจะมาถึง ซึ่งได้กำชับไปยังทุกหน่วยงาน ในการติดตามเฝ้าระวัง และดูแลประชาชนในพื้นที่ริมน้ำอย่างใกล้ชิด