เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ เร่งรวบรวมหลักฐาน เหตุอาสาสมัครกู้ภัยช่วยหนุ่มซิ่งบิ๊กไบค์พุ่งชนรถกระบะเสียชีวิตกลางสี่แยกไฟแดง ระบุยังไม่แจ้งข้อหากับใคร ขอเวลาอีก 15 วันทราบผลการพิสูจน์ว่ามีความผิดฐานใดหรือไม่ ขณะที่แม่หนุ่มบิ๊กไบค์ ไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต
จากกรณีโลกออนไลน์มีการแชร์คลิปวีดีโอและมีผู้วิพากษ์วิจารณ์กันจำนวนมากเหตุการณ์อาสาสมัครกู้ภัยหน่วยงานหนึ่ง เข้าช่วยผู้ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะ บนถนนสายกาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด บริเวณสี่แยกบ้านบ่อ อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ เนื่องจากชายซึ่งเป็นอาสาสมัครกู้ภัย เข้าจับขาที่มีสภาพหักพับทั้งสองข้างดัดให้อยู่ในท่าเหยียดตรง ซึ่งหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า การช่วยเหลือดังกล่าวได้มีการประเมินสถานการณ์และสภาพผู้บาดเจ็บก่อน และเป็นการช่วยเหลืออย่างผิดวิธีหรือไม่ เพราะต่อมาผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นเสียชีวิตที่โรงพยาบาลกมลาไสย กระทั่งทางสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ สพฉ.สั่งดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ อาสาสมัครกู้ภัยคนดังกล่าว ได้ออกมาชี้แจงว่า ตนได้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับการอบรมมา และมีประสบการณ์ทำงานมากว่า 24 ปีตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 ที่ สภ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ภูมี อีคะละ ผกก.สภ.กมลาไสย และ ร.ต.อ.ณรงค์ วังเสนา รอง สว (สอบสวน) สภ.กมลาไสย พนักงานสอบสวน ร่วมกันสอบปากคำนางบุญเลี่ยม สุ่มมาตย์ อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 37 หมู่ 9 ต.ธัญญา อ.กมสาไสย จ.กาฬสินธุ์ มารดานายอำนาจ สุ่มมาตย์ อายุ 37 ปี หนุ่มซิ่งบิ๊กไบค์ชนรถกระบะที่บริเวณ 4 แยกไฟแดงบ้านบ่อ ซึ่งเสียชีวิตกลางดึกวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมาที่โรงพยาบาลกมลาไสย
นางบุญเลี่ยม สุ่มมาตย์ กล่าวว่า ได้นำเอกสารรับรองการเสียชีวิตของนายอำนาจ สุ่มมาตย์ ลูกชาย ซึ่งเป็นบุคคลคนเดียวที่ปรากฏในคลิป ขณะอาสาสมัครกู้ภัยเข้าช่วยเหลือ โดยจากบันทึกของแพทย์โรงพยาบาลกมลาไสย ระบุนายอำนาจเสียชีวิตที่โรงพยาบาล เวลา 22.25 น. ในคืนวันที่ 3 พ.ค. จากสาเหตุสมองถูกกระทบกระเทือนขั้นรุนแรง ทั้งนี้ ได้ประกอบพิธีฌาปนกิจตามประเพณี เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ที่วัดประจำหมู่บ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม จากสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งเกิดจากอุบัติเหตุ ขับรถจักรยานยนต์ชนกับรถกระบะคู่กรณี และจากบันทึกของแพทย์ที่ให้การรักษา ตนจึงไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ถึงแม้จะรู้สึกเสียใจ ก็จะพยายามทำใจ ส่วนคู่กรณี หรือใครจะมีความผิดอย่างไรหรือไม่ ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ด้าน พ.ต.อ.ภูมี อีคะละ ผกก.สภ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พนักงานสอบสวน เร่งรวบรวมหลักฐาน ทั้งในส่วนสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ สอบปากคำพยานแวดล้อม ขณะที่ในส่วนของพฤติกรรมของอาสาสมัครกู้ภัย ที่เข้ามาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บในที่เกิดเหตุ ตามที่มีการโพสต์ในโลกโซเชียลนั้น ได้ปฏิบัติตามหลักการหรือถูกต้องหรือไม่ ก็จะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและติดตามสอบสวนต่อไป ซึ่งในเบื้องต้น ยังไม่ได้แจ้งข้อหากับใคร และขอเวลาอีก 15 วัน เพราะต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบ โดยเฉพาะผลการชันสูตรศพสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด ก็จะสามารถสรุปผลได้ ทั้งนี้ทราบว่า ไม่มีทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย และญาติของผู้เสียชีวิต ไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ขณะที่รถคู่กรณีทั้ง 2 คันเก็บไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.กมลาไสย