มหาสารคาม-ระทึกเรือ40ฝีพายเกิดอุบัติเหตุชนตอม่อสะพานข้ามแม่น้ำชี ในการแข่งขันงานประเพณีแข่งเรือยาวไหลเรือไฟออกพรรษา สูญหาย3รายยังไม่ทราบชะตากรรม ล่าสุดกู้ภัยยกเลิกภารกิจการค้นหาเพราะกะแสน้ำไหลเชี้ยวมาซึ่งจังหวัดมหาสารคามยังประสบปัญหาน้ำท่วมน้ำชีเอ่อล้น
วันที่ 9ตุลาคม 2565 เวลา 15.00 น.ที่วัดท่าตูมวารินทร์ บ้านท่าตูม หมู่ 9 ตำบลท่าตูม อ.เมือง จ.มหาสารคาม เบื้องต้นมีผู้สูญหาย 3 คน คือ นายอนุพงษ์ ตุ้ยมอน อายุ 30 ปี ราษฏร ต.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ นายบัณฑิต โรโห ชาวตำบลเมืองบัว อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด และนายสุนันต์ พิชัยลึก อายุ 24 ปี ราษฏรตำบลเมืองแก อำเภอสตึก จ.บุรีรัมย์
ขณะเกิดเหตุเป็นการแข่งขันช่วงชิงที่ 3 เรือเทพธิดาวารินทร์ จ.กาฬสินธุ์ กำลังแข่งกับ เรืออินทร์แปลง จ.กาฬสินธุ์ โดยแข่งขันกันในแม่น้ำชี ซึ่งน้ำไหลเชี่ยวและแรง ในจังหวะที่กำลังจะเข้าเส้นชัย หัวเรือของเรืออินทร์แปลงเข้าไปใกล้ตอม่อสะพาน นายท้ายอาจจะงัดเรือไม่ทัน จึงทำให้เรือชนเข้ากับต่อม่อสะพาน เรือแตก ฝีพายต่างก็กระโดดน้ำหนีเอาตัวรอด บางส่วนก็เกาะเรือไว้ รอให้ทีมเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางน้ำ และเรือที่ร่วมแข่งขันด้วยช่วยเหลือพาขึ้นฝั่ง ซึ่งหลังเกิดเหตุจากการตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บนำตัวส่งโรงพยาบาล 3 คน อาการสีเขียว 1 คน สีเหลือง 2 คน และมีผู้สูญหาย 3 คนดังกล่าว
ส่วนญาติที่ทราบเหตุการณ์ต่างก็รีบเดินทางมายังที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามข่าว โดยพ่อและแม่แท้ ๆ ของนายอนุพงษ์ อยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ คุณแม่ร้องไห้ พร้อมพูดออกมาว่าบอกแล้ว ห้ามแล้วก็ไม่ฟัง ส่วนพ่อนั่งกอดไม้พายของลูก และร้องไห้ตลอดเวลา
ด้านนายยันต์ อินทสอน พ่อบุญธรรมของนายอนุพงษ์ บอกว่า พอทราบข่าวก็รีบเดินทางมาจาก อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ พ่อแท้ ๆ ของนายอนุพงษ์โทรมาหา ฟังไม่ศัพท์ ร้องไห้ตลอด ก็เลยรีบมา ซึ่งงานแข่งเรือที่วัดท่าตูมวารินทร์แห่งนี้ไม่ได้จัดมา 3 ปีแล้ว เพราะติดช่วงโควิด ปีนี้ถือเป็นปีแรก ส่วนลูกก็ไปทำมาค้าขายกับตน ทางทีมงานแข่งงานเพิ่งจะชวนมาแข่งเรือเมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมา ก่อนมาก็บอกให้รักษาเนื้อรักษาตัวดี ๆ ลูกชายพูดเหมือนเป็นลางว่าขอไปแข่งครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย เพราะว่าฝีพายไม่ครบ ก็เลยมาช่วย ลูกเป็นคนขยันทำมาหากิน เสียใจมาก อยากให้เจ้าหน้าที่เจอลูกไว ๆ
ส่วนนางบี แม่บุญธรรม เล่าว่า เมื่อวานนี้ตอนลูกกลับมาจากซ้อมแข่งเรือ เห็นกำลังกินข้าวไข่เจียวกับแฟน ก็ได้ยินลูกพูดขึ้นมาว่าจะไปครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย แม่ก็เลยว่าทำไมพูดแบบนี้ ถ้าหนูได้ยินใครพูดแบบนี้ ต้องทักท้วงมันจะได้กลับกลายเป็นอย่างอื่น แม่ก็มีลางสังหรณ์ในใจ แต่ก็ไม่ได้พูดออกมา ในใจอยากบอกลูกว่าถ้ามาถึงที่งานก็ให้ยกมือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก่อนจะลงแข่งเรือ แต่แม่ก็ไม่ได้พูด ประโยคสุดท้ายที่พูดกับลูกคือคำว่า ฝันดีนะลูก
นายกฤษดานคร ภูมิศาล หนึ่งในเรืออินแปลง กาฬสินธ์ เล่าว่า ตนเอง นั่งเรือลำเดียวกัน ในเรืออินแปลง กาฬสินธ์ คือในช่วงนั้นนายท้ายเรือผู้พายเรือมาแล้วหักไม่ทันเลยชนตอม่อ ในช่วงจังหวะหนึ่งก็พากันแตกตื่นออกจากกัน ตนเองหาที่จับแบบปลอดภัยที่สุดในช่วงนั้นตนเองไม่ได้ตกใจเพราะตนเองเคยมีประสบการณ์แบบนี้มาแล้วพบเจอจากเหตุการณ์แบบนี้ตนเองจึงตั้งสติได้ตอนที่เคยเจอปรสบการณ์ในตอนนั้นน้ำยังน้อยอยู่ และน้ำนิ่งและมีลมแรง แต่น้ำที่มาแข่งในวันนี้ เป็นน้ำไหลแรงมาก อีกคนจะพายเข้าตลิ่งฝั่งให้ได้แต่พี่ชายน่าจะช๊อกหรือหมดแรงอาจเป็นพระแข่งเรือมาทั้งวันไม่ได้พักเลยและ สู้กระแสน้ำเชี่ยวไม่ไหว ซึ่งปีนี้ถือว่าน้ำในแม่น้ำชีมากกว่าทุกปี และเป็นจังหวะที่พายเรือมาแล้วนายทายจึงใช้ไม้พายงัดไม่ทันในช่วงรอดสะพาดจึงทำให้ชนสะพานต่อหม้อ แต่ละคนก็พากันแตกตื่นส่งเสียงร้องให้คนมช่วย กู้ภัยต่างก็ออกมาช่วย และโยนชูชีพให้และมีบางคนซึ่งไม่เคยพายเรือในช่วงแข่งเลยบางคนก็มีประสบการณ์