วันที่ 19 ต.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณี “โตโน่” ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ เตรียมว่ายน้ำข้ามโขง ตามโครงการ “One Man And The River หนึ่งคนว่าย หลายคนให้ ล่าสุดมีการเผยเอกสารขอความช่วยเหลือจากหลายหน่วยงานในการจัดกิจกรรม คาดว่าเป็นการเตรียมงานของโครงการนี้
นางสาวนลินธรณ์ รัตนวรางกูร ผู้จัดการส่วนตัวของโตโน่ กล่าวว่า ความต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์ของโรงพยาบาล หลังจากที่ได้ยอดบริจาค ความต้องการอุปกรณ์ทางการแพทย์ หลังจากรับบริจาคจะมี มูลนิธิ เทใจ เป็นตัวกลางในการจัดซื้ออุปกรณ์ในราคาที่ดีที่สุด เพื่อให้ได้อุปกรณ์ได้มากที่สุด มีคุณภาพที่สุด ตามความต้องการสูงสุดตามเงินบริจาคที่ได้รับมา ปิดรับบริจาค 31 ธ.ค. ณ ตอนนี้ยอดเงินบริจาคอยู่ที่ประมาณ หกล้านบาท ขอบคุณผู้บริจาค ขอบคุณทุกหน่วยงานที่มอบประโยชน์สูงสุด ให้กับทางโรงพยาบาล และประชาชนที่มารักษาพยาบาล สภาพแม่น้ำโขง จากประสบการณ์ ตนไม่มีประสบการณ์ในทางน้ำ มีผู้เชี่ยวชาญที่มาช่วยดูแลความปลอดภัย
นายภาคิน คำวิลัยศักดิ์ หรือ โตโน่ กล่าวว่า จากการที่มาในวันนี้ ดูขบวนการว่ายน้ำว่าจะขึ้นไปทำกิจกรรมได้ตรงไหนอย่างไรบ้าง กับทางทีม ว่าจะดูแล จะไปให้เป็นระเบียบอย่างไร รบกวนให้น้อยที่สุด จุดมุ่งหมายคือ อยากจะช่วยโรงพยาบาลทั้งสองฝั่งให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ เรารักที่นี่ เป็นความตั้งใจ ขอบคุณสื่อมวลชน ขอบคุณจังหวัดนครพนม ที่มาช่วยกันให้ หวังว่า วันที่ 22 ต.ค.จะเป็นวันที่ทุกคนมีรอยยิ้ม ทุกคนมีความสุข หมอและพยาบาลจะได้ทำงานได้เต็มที่มากขึ้น แต่จะช่วยได้มากน้อยอย่างไร ไม่มั่นใจ แต่จะพยายาม ตั้งแต่ซ้อมมาสื่อสารกับทุกคนพยายามทำเต็มที่ ร่างกายเต็ม 100 ไม่มีความกังวลในเรื่องใด ๆ บางทีเราไม่รู้ว่ากระแสน้ำจะนิ่งกว่านี้ หรือแรงกว่านี้ ความสำคัญคือ มาที่นี่ทำไม คือเป้าหมายหลักที่อยากจะทำ ยิ่งช่วยเสริมกำลังให้หมอ พยาบาลได้มากเท่าไร อยากจะทำให้ได้มากที่สุด
ร้อยเปอร์เซ็นต์ คือร่างกาย จิตใจ การว่ายทวนน้ำในวันนั้น คือการปรับระดับความแรงว่า ต้านความแรงของน้ำได้นานขนาดไหน กระแสที่ทดสอบแรงกว่า แรงน้ำปกติ การที่จะลงครั้งนี้ไม่มีปัญหากับการว่ายทวนน้ำ คือสิ่งที่ทำการบ้านกันไว้ และชาวนครพนมให้การบ้านไว้ว่าช่วงนี้น้ำจะเป็นอย่างไร มรสุมจะน้อยลง จากลานพญาศรีสัตตนาคราช เขตเทศบาลเมืองนคพรนม ไปถึงพระธาตุศรีโคตรบอง แขวงคำม่วน สปป.ลาว หมายความว่า ช่วงที่จะตัดต้านกระแสน้ำมีพอประมาณ เหนื่อยหน่อย ในการข้ามฝั่งไป ช่วงเลียบฝั่งนครพนม จะเหนื่อยน้อยลง
จากกระแสดราม่ายอมรับว่า ตนเป็นมนุษย์คนหนึ่ง อาจจะมีบ้าง แต่ว่า นครพนมสำคัญกว่านั้น คนนครพนมสำคัญกว่านั้น หมอ พยาบาล เหนื่อยกว่านั้น ตนเหนื่อยแค่วันเดียว ยินดี จากการใช้อุโมงค์น้ำในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เรื่องนี้ ทางอาจารย์ของมหาวิทยาลัย ทราบข่าวจาก ดราม่า ทางอาจารย์อยากจะช่วย ให้เราไปทดสอบส่วนตัว การดราม่า ขอทำดีกว่า ปกติเราจ่ายค่าใช้จ่ายในการใช้อุโมงค์ ครั้งนี้ อาจารย์ไม่ได้คิดเงิน เนื่องจากทราบว่า งบน้อย ในส่วนของค่าใช้จ่ายมีดราม่าให้ทุกวัน ถ้าดราม่าแล้ว พอจะช่วยแบ่งเบาคุณหมอ พยาบาลได้บ้าง จะยอมช่วย คนที่มองไม่เห็นไม่เป็นไร ใครจะพิมพ์ จะว่า ไม่เป็นอะไร
ฝากบอกถึงคนไทยหลาย ๆ คนที่เป็นห่วง พยายามทำให้เต็มที่เท่าที่จะทำได้ บอกได้ว่า ว่ายน้ำทำไม คนนครพนมศรัทธาในพญาศรีสัตตนาคราช ท่านเฝ้าดูแลองค์พระธาตุพนม คงอยากบอกว่า อย่าทิ้งขยะในแม่น้ำโขง ให้อาชีพ ให้อาหารกับเรา ใครจะดราม่าก็ไม่เป็นไร มีความรักความสามัคคีกัน ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ทาง กรุงเทพฯ มีอุโมงค์น้ำ ช่วยตรงที่ไม่มีค่าใช้จ่ายในการใช้อุโมงค์ ถ้าจะดราม่ากัน แล้วจะต้องให้คนที่เค้าอยากมาช่วย คนที่เค้ารัก มีน้ำใจ พ่อแม่พี่น้องชาวนครพนมที่มาวันนี้ ทุกคนอยากมาช่วย ใครจะการเมืองยังไง คิดแค่ว่าจะช่วยหาอุปกรณ์การแพทย์ได้อย่างไร หมอ พยาบาล รักษาหมดทุกคน จะได้กี่บาท กี่แสน กี่หมื่น กี่ล้าน นั่นคือความต้องการของตน