พ่อเฒ่าวัย 72 ปีอดีตทหารผ่านศึกชาวอำเภอนาคู จังหวัดกาฬสินธุ์ คลั่งจ้วงแทงหลานชายปืนยิงซ้ำ หลังนำฮวกมาฝาก แต่หวั่นถูกทำร้าย หลังก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตามรวบทันควัน เผยตรวจสอบเบื้องต้นมีอาการผิดปกติทางจิต สันนิษฐานเกิดภาพอดีตหลอนจำฝังใจ เห็นคนอื่นเป็นศัตรูต้องกำจัด ก่อนเกิดเหตุภาพหลอนใช้มีดปลายแหลมกระหน่ำแทงและยิงหลานชายที่เอาฮวก(ลูกอ๊อด)มาให้ห่อหมกทำกินเสียชีวิต
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 15 มิถุนายน 2563 ที่บ้านโคกยาว ต.โนนนาจาน อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต. สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวีรัชต์ ศรีธวัชพงศ์ รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รองผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.โสณกุญชร์ ทรัพย์สมบัติ ผกก.สภ.นาคู นายพิรุณโรจน์ นาคตนตรี นายอำเภอนาคู และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง แพทย์เวร รพ.นาคู ร่วมชันสูตรพลิกศพนายเสกสรรค์ สุขทวี อายุ 42 ปี ราษฎรบ้านเลขที่ 13 หมู่ 6 บ้านโคกยาว หลังเสียชีวิต เหตุถูกนายบุญล้น สุขทวี อายุ 72 ปี บ้านเลขที่ 14 หมู่ 6 บ้านโคกยาว ต.โนนนาจาน อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นลุงใช้มีดแทง และใช้ปืนยิงซ้ำจนเสียชีวิตอยู่บริเวณถนนกลางหมู่บ้าน ท่ามกลางชาวบ้านที่มามุงดู และเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันจำนวนมาก
พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 13.00 น. ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.โสณกุญชร์ ทรัพย์สมบัติ ผกก.สภ.นาคู มีเหตุชาวบ้านใช้มีดปลายแหลมและอาวุธปืน ทำร้ายร่างกายกันถึงแก่เสียชีวิตที่กลางหมู่บ้าน โดยเบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องหาที่ก่อเหตุและผู้เสียเสียชีวิตเป็นญาติกัน และขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาคู ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอนาคู และเจ้าหน้าที่ ชรบ.ได้ติดตามตัวผู้ต้องหา และควบคุมตัวไว้ได้ หลังก่อเหตุได้ไปหลบที่กระท่อมนาห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 500 เมตร ไม่ถึง 20 นาที จึงเดินทางร่วมตรวจสอบ และทำแผนประกอบคำให้การสารภาพของผู้ต้องหา
พล.ต.ต.สมนึก กล่าวอีกว่า ที่เกิดเหตุพบนายเสกสรรค์ สุขทวี อายุ 42 ปี นอนเสียชีวิตอยู่กลางถนนกลางหมู่บ้าน สภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อยืดคอกลมสีน้ำตาล กางเกงสีขาสั้นสีดำ สวมรองเท้าบู๊ท คราบเลือดกบปากและกองเลือดอยู่ข้างๆศพ จากการชันสูตรศพ พบบาดแผลคล้ายถูกของมีคมแทงเข้าที่บริเวณใต้ซี่โครงด้านขวา ไหล่ขวา และบริเวณด้านหลังมีรอยกระสุนปืนเป็นรูหลายจุด จากการตรวจสอบทราบว่าเป็นปืนแก๊ปหรือปืนไทยประดิษฐ์ กระสุนฝังใน อย่างไรก็ตาม จากการสอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้นทราบว่าอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีครอบครัว และยังให้การรวกไปวนมา และจากการสืบประวัติทราบว่ามีปัญหาทางหูและทางจิต
พล.ต.ต.สมนึก กล่าวอีกว่า สำหรับนายบุญล้าน ผู้ต้องหาอดีตเคยเป็นทหารรับจ้างในสมรภูมิเวียดนามมาก่อน แต่ไม่เคยเข้ารับการบำบัดรักษาและไม่ยอมรับว่าตนมีปัญหาทางจิต ซึ่งที่ผ่านมาญาติและเพื่อนบ้าน พยายามเกลี้ยกล่อมให้เข้ารับการตรวจรักษา แต่เจ้าตัวไม่ยอมรับ ก่อนที่จะก่อเหตุสลดแทงและยิงหลานชายเสียชีวิตในครั้งนี้ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และจะทำการตรวจสอบและสอบสวนเพิ่มเติม และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน น.ส.วรรณพร จีนกลาง อายุ 40 ปี ภรรยานายเสกสรรผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ปกติตนกับสามีจะนอนอยู่นา นานๆครั้งถึงจะกลับเข้าในหมู่บ้าน เพื่อซื้อของใช้ทำครัวและของใช้ส่วนตัว วันนี้ตนและนายเสกสรรค์สามี ได้จับฮวกหรือลูกอ๊อด ซึ่งเป็นตัวอ่อนของกบ ที่จะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในฤดูฝน จากนั้นนายเสกสรรค์ได้เดินทางเข้ามาในหมู่บ้าน เพื่อนำฮวกจะนำมาฝากญาติพี่น้อง รวมทั้งนายบุญล้น ทำการห่อหมกและประกอบอาหารกินตามประสาชาวบ้าน แต่กลับถูกฆ่า และได้รับข่าวร้ายเมื่อญาติโทรไปแจ้งว่านายเสกสรรค์ถูกนายบุญล้นผู้ต้องหาใช้มีดแทงและเสียชีวิตดังกล่าว
นาง น.ส.วรรณพร กล่าวอีกว่าตนไม่ทราบมาก่อนว่าสามีซึ่งเป็นหลานชายแท้ๆของนายบุญล้นผู้ต้องหามีปัญหาหรือเรื่องทะเลาะกันมามาก่อน สาเหตุที่นายเสกสรรค์สามีถูกนายบุญล้นผู้ต้องหาทำร้ายร่างก่ายถึงกับเสียชีวิตในครั้งนี้ ตนจึงไม่ทราบสาเหตุจริงๆ ว่ามีเหตุจูงใจอะไร จะว่ามีปัญหาเรื่องมรดก หรือเมาสุรา หรือยาบ้า ก็ไม่ใช่ เพราะเห็นว่าไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทั้งนี้ ในด้านคดีความ ขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่จะติดตามสอบสวนต่อไป เพราะตนนี้ตนมึนงงไปหมดแล้ว แต่ก็ไม่อยากให้สามีตายฟรี เพราะเขาเป็นเสาหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว
อย่างไรก็ตาม จากเหตุสลดนายบุญล้นใช้มีดปลายแหลมแทงและใช้ปืนไทยประดิษฐ์ยิงนายเสกสรร หลานชายๆแท้เสียชีวิตดังกล่าว เนื่องจากนายบุญล้นที่อดีตเป็นทหารรับจ้าง และมีปัญหาทางหูและจิต จึงอาจจะเกิดภาพหลอน เห็นหลานชายที่เอาฮวกมาฝากเป็นศัตรู จึงก่อเหตุใช้มีดแทงและใช้ปืนยิงจนเสียชีวิตกลางถนนหน้าบ้านดังกล่าว