ญาติภรรยารองสารวัตรสืบสวน สน.วังทองหลาง ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ลั่นติดใจสาเหตุการเสียชีวิต ไม่เชื่อน้องนิ่ม หรือนางสาวพิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ ที่เสียชีวิตในบ้านพักย่านบางกะปิยิงตัวตาย วอนเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความเป็นธรรม เร่งดำเนินการสอบสวนอย่างตรงไปตรงมา ขณะที่ญาติทยอยมาแสดงความเสียใจด้วยความโศกเศร้า หลังเคลื่อนศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านพักเมื่อคืนที่ผ่านมา
จากกรณีน้องนิ่ม หรือนางสาวพิมชฎาพร ภูแย้มไสย์ ที่เสียชีวิตในบ้านพักย่านบางกะปิ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ติดต่อญาติให้ไปรับศพ ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อนำมาบำเพ็ญกุศลที่ภูมิลำเนาตามประเพณี หลังพนักงานสอบสวนส่งศพมาชันสูตรสาเหตุการตาย และแพทย์นิติเวชระบุสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากบาดแผลกระสุนปืนทำลายสมอง ซึ่งเป็นปืนขนาด จุด 45 ยิงเข้าที่บริเวณศีรษะด้านซ้าย 1 นัด ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 22 มิถุนายน 2563 ที่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 4 บ้านดงเค็ง ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของน้องนิ่ม ผู้เสียชีวิต โดยญาติได้เดินทางไปรับศพกลับมาถึงและตั้งบำเพ็ญกุศลเมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ญาติพี่น้องที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาแสดงความเสียใจกับครอบครัวน้องนิ่ม และวิพากษ์วิจารณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า เพราะการจากไปอย่างกะทันหัน ซึ่งทุกคนยังลงความเห็นว่าน้องนิ่มไม่ได้ยิงตัวตายแน่นอน
นางทองใส ภูคงน้ำ อายุ 56 ปี มารดาน้องนิ่มผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ถึงขณะนี้ตนและญาติๆยังไม่เชื่อว่าลูกสาวยิงตัวตาย และยังรู้สึกช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับสาเหตุนั้นสันนิษฐานว่าเกิดจากการทะเลาะกัน แต่ไม่ใช่เจตนาจบปัญหาชีวิตด้วยการยิงตัวตายแน่นอน เพราะเท่าที่ทราบจากลูกสาวที่ติดต่อทางโทรศัพท์เป็นประจำนั้น จะโทรมาปรับทุกข์ว่ามีปัญหาทะเลาะกับสามีบ่อยมาก บางครั้งถูกสามีลงมือตบตี แต่ก็อยู่กันมาได้เหมือนเป็นเรื่องปกติในครอบครัว ซึ่งมีอยู่ครั้งหนึ่ง หลังทะเลาะกันลูกสาวหนีมาพักผ่อนใจที่บ้าน ขณะที่สามีที่เป็นตำรวจก็จะโทรมาง้อ ให้กกลับไปกรุงเทพฯ
นางทองใสกล่าวอีกว่า สำหรับลูกสาวและสามีที่เป็นตำรวจนั้น ยังไม่ได้หมั้นหมายหรือแต่งงานกัน แต่อยู่กินกันมาได้ประมาณ 4 ปี มีพยานรักซึ่งลูกสาวที่กำลังน่ารักน่าชังวัย 2 ขวบ 1 คน ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ลูกสาวอยู่กินกับตำรวจคนนี้นั้น ตนไม่เคยพบหน้ากับลูกเขย เพราะลูกเขยสามีน้องนิ่มเองก็ไม่เคยมาเยี่ยมบ้านตนเลย ซึ่งมีอยู่ครั้งหนึ่งตนเคยสอบถามทางโทรศัพท์ เรื่องการหมั้นหมายสู่ขอและแต่งงานตามประเพณี แต่ก็ไม่เคยได้รับคำตอบจากสามีของน้องนิ่มลูกสาว อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าลูกสาวรักสามี จึงปล่อยเลยตามเลย และเห็นว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว ก็ขอให้ตัดสินใจเอง แต่ก็รอโอกาสให้เขามาสู่ขอและตบแต่งตามประเพณีอยู่
นางทองใสกล่าวเพิ่มเติมว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทราบจากลูกสาวว่ามีปากเสียงกันบ่อยมาก เนื่องจากสามีเป็นคนเจ้าชู้ คบซ้อน ล่าสุดทราบว่าแอบไปจดทะเบียนและมีบุตรชายกับผู้หญิงอื่น แต่น้องนิ่มลูกสาวตนก็ปลงและไม่ไปก้าวก่าย ไม่ได้เรียกร้อง ทั้งนี้ เท่าที่เคยคุยกันทางโทรศัพท์ลูกสาวก็ไม่ได้มีความเครียดหรือเป็นโรคซึมเศร้าในครอบครัวเลย ก็ทำหน้าที่เลี้ยงลูก ขายของเล็กๆน้อย เช่น สบู่ทางออนไลน์เพื่อเป็นรายได้ แบ่งเบาภาระให้สามี ที่เป็นปัญหาก็คือทะเลาะกันบ้าง แต่ที่ผ่านมาสามีก็รับผิดชอบค่าใช้จ่าย และแม่สามีก็ซื้อบ้านส่วนตัวให้อาศัย โดยบ้านหลังนั้นเป็นชื่อร่วมระหว่างแม่สามีและชื่อหลานสาววัย 2 ขวบ
“อย่างไรก็ตาม กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเบื้องต้นอาจจะมีการแสดงความคิดเห็นว่าลูกสาวยิงตัวตาย แต่ตนไม่เชื่อแน่นอน เพราะก่อนหน้าที่น้องนิ่มลูกสาวจะเสียชีวิต ทุกครั้งที่มีข่าวเกี่ยวกับการฆ่าตัวตาย ลูกสาวมักพูดเสมอว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการทำสิ้นคิด และไม่มีทางทำแบบนั้น ขณะนี้ยอมรับว่าตนติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาวมาก เพราะลูกสาวถนัดมือขวา แต่พบปืนถืออยู่ที่มือซ้าย และกระสุนเข้าที่ศีรษะซ้าย ดังนั้น จึงอยากเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความเป็นธรรมกับลูกสาว โดยทำหน้าที่สอบสวนสอบสวนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างตรงไปตรงมา ทั้งนี้ ในส่วนของการฌาปนกิจศพนั้น ตนและญาติยังไม่ได้กำหนดวัน เพราะทุกคนยังอยู่ในอาการช็อค และยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น” นางทองใสกล่าวทั้งน้ำตา