สลดหนุ่มวัย 44 ปี เกิดอาการคลุ้มคลั่งก่อเหตุใช้ค้อนทุบหัวพ่อบังเกิดเกล้าวัย 75 ปีอดีตเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์เสียชีวิตหน้ายุ้งฉาง ฉุนขอข้าวเปลือกพ่อไปขายหาเงินซื้อยาไม่ได้จึงก่อเหตุ ขณะที่ตำรวจตามรวบทันควัน คุมตัวไปทำแผน เบื้องต้นพบประวัติรักษาอาการทางประสาทเสพยาจนหลอน
เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเวลา20.30 น.พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วย กาฬสินธุ์ พ.ต.อ. กิตติพงษ์ ยี่วาศรี ผกก.สภ.ห้วยผึ้ง ร.ต.อ.ฤทธิ์ เพียงล้ำ ร้อยเวร สภ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และแพทย์เวรโรงพยาบาลห้วยผึ้ง เข้าตรวจสอบหลังได้แจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิตบริเวณหน้ายุ้งฉางข้าว บ้านชายทุ่งไม่มีเลขที่ ติดกับถนนทางออกบ้านหนองขอนแก่น-หนองอีบุตร ต.หนองอีบุตร อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ เบื้องต้นรับแจ้งว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรม
โดยที่เกิดเหตุพบศพนายสวัสดิ์ ศิริละ อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 บ้านหนองอีบุตร หมู่ที่ 1 ต.หนองอีบุตร อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ เจ้าของบ้านนอนเสียชีวิตอยู่พื้นดินหน้ายุ้งฉางข้าวสภาพศพสวมเสื้อสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลตรวจสอบตามร่างกายมีบาดแผลถูกของแข็งตีที่บริเวณศีรษะเป็นแผลและศีรษะยุบจนเสียชีวิต ใกล้กันพบค้อนตอกตะปูเปื้อนเลือดตกอยู่และท่อนไม้ ซึ่งคาดว่าคนร้ายน่าจะใช้เป็นอาวุธในการก่อเหตุ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบตัวผู้ก่อเหตุคือนายอัครเดช ศิริละ อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของผู้เสียชีวิต และหลังก่อเหตุจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัวได้ขณะเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านพักเลขที่ 73 บ้านหนองอีบุตร หมู่ที่ 1 ต.หนองอีบุตร อ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ จึงนำตัวมาสอบสวน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงวันที่ 23 มิถุนายน 2563 เวลาประมาณ 13.00 น. นายสวัสดิ์ ผู้ตาย ได้พักอาศัยอยู่บ้านชายทุ่งไม่มีเลขที่หลังที่เกิดเหตุ ส่วนด้วยนายอัครเดช ลูกชายแท้ๆ ซึ่งสติไม่ดีเนื่องจากเสพยาบ้าจนหลอนและมีประวัติในการรักษาทางประสาทได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดเพื่อจะมาเอาข้าวเปลือกจากยุ้งฉางไปขายเพื่อซื้อยาเสพติดมาเสพ แต่ระหว่างนั้นลูกชายได้ขอกุญแจเปิดยุ้งฉางจากพ่อ แต่พ่อไม่ให้จึงมีปากเสียงกัน ทำให้ลูกชายอาศัยจังหวะพ่อเผลอใช้ค้อนทุบบริเวณศีรษะพ่อบังเกิดเกล้าหลายครั้งจนล้มลงแน่นิ่งเสียชีวิตดังกล่าว ก่อนที่จะนำเอากุญแจไปเปิดและนำข้าวเลือกไปขาย 2 รอบ จนต่อมาหลานสาวผู้เสียชีวิตมาพบกลายเป็นศพ และเจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวได้ดังกล่าว โดยเบื้องต้นนายอัครเดช ให้การว่าก่อเหตุจริง แต่ยังให้การวกวนและยังอยู่ในอาการหลอน
จากนั้นพล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.จว.กาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเริ่มจากการขี่รถจยย.มายังจุดเกิดเหตุก่อนจะเข้าไปขอกุญแจกับพ่อแล้วมีปากเสียงกันและใช้ค้อนทุบศีรษะพ่อจนเสียชีวิตและนำเอาข้าวเปลือกไปขายเพื่อซื้อยาเสพติด
พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติผู้ก่อเหตุพบว่าเคยเข้ารับการรักษาอาการทางประสาท เนื่องจากเสพยาเสพติดมานาน แต่รักษาออกมาก็กลับมาเสพและอาการหลอนอีก บ่อยครั้งพูดจาไม่รู้เรื่อง กระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น เนื่องจากเกิดอาการหลอนและพ่อขัดใจ ซึ่งเหตุการนี้มีผู้เสียชีวิตและครอบครัวจะค่อนข้างมาฐานะดี เพราะเป็นอดีตหัวหน้าไปรษณีย์อำเภอแห่งหนึ่ง และครอบครัวพยายามรักษาผู้ก่อเหตุแต่ก็ยังไม่ดีขึ้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวอยากฝากเตือนไปยังประชาชนหากมีคนในครอบครัวมีอาการและพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าวให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ อีกทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องช่วยกันแก้ปัญหาเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์สลดใจเกิดขึ้นอีก
ด้านนายวรศักดิ์ ศิริละ อายุ 49 ปี พี่ชาย ผู้ก่อเหตุกล่าวว่า น้องชาย มีอาการทางประสาทเนื่องจากเสพยาเสพติดมานานกว่า 10 ปีแล้วซึ่งทางครอบครัวตาไปรักษาหลายครั้ง แต่ก็ยังมีอาการจิตหลอนอาระวาดมันไม่มีใครเข้าใกล้ได้และล่าสุดมาก่อเหตุฆ่าพ่อบังเกิดเกล้าตัวเองในครั้งนี้
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาฆ่าบุพการีถึงแก่ความตาย พร้อมกับนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป