เกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ แจงกรณีดีเจเมืองขอนแก่นหอบหลักฐานร้องป.ป.ช.ภาค 4 หลังถูกนำชื่อไปทำธุรกรรมซื้อขายมูลไก่กับหน่วยงานรัฐในโครงการ 9101 จนถูกสรรพากรเรียกเก็บภาษีย้อนหลังเป็นเงินกว่า 6 แสนบาท โดยเกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ระบุได้ทราบเรื่องเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และตรวจสอบเอกสารเบื้องต้นพบว่าเกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอยางตลาด ล่าสุดมีคำสั่งให้เกษตรอำเภอยางตลาดตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว
จากกรณี นางสาวนิมิต ตราชู หรือดีเจนุ่มนิ่ม ดีเจชื่อดังชาว จ.ขอนแก่น นำหลักฐานเข้าร้องต่อป.ป.ช.หลังถูกสำนักงานสรรพากรพื้นที่ สาขาเมืองขอนแก่น แจ้งให้ชำระภาษีส่วนบุคคลย้อนหลังปี 2560 เป็นเงินกว่า 6 แสนบาท โดยมีนายประทีป จูฑะศร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช.ภาค 4 มารับเอกสารหลักฐานไว้เพื่อทำการตรวจสอบให้เกิดความกระจ่าง โดยจากการตรวจสอบกับทางสรรพากรแล้ว พบว่าภาษีที่ถูกเรียกเก็บดังกล่าว เกิดจากมีชื่อตนทำธุรกรรมซื้อขายมูลไก่กับสำนักงานเกษตร จ.กาฬสินธุ์ ในโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อภายใต้ร่มพระบารมี เพื่อการพัฒนาการเกษตรอย่างยั่งยืน ตั้งแต่ปี 2560 โดยชื่อตนเป็นผู้ขายมูลไก่มีการสั่งจ่ายเงินในชื่อตนภายใน3วันเป็นเงิน 6,173,000 บาทเป็นเหตุให้ถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังดังกล่าว
ทั้งนี้ ดีเจนุ่มนิ่มอ้างว่าตนไม่เคยซื้อขายกับหน่วยงานดังกล่าวเลย และไม่เคยได้รับเงินจากขายมูลไก่ดังกล่าว ซึ่งหลังทราบเรื่องตนเองได้เดินทางไปยังสำนักงานเกษตร จ.กาฬสินธุ์ ที่มีชื่อตนทำการจัดซื้อแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน โดยผู้เกี่ยวข้องอ้างว่าบุคคลที่เกี่ยวข้องได้เกษียณและเจ้าหน้าที่ย้ายไปแล้ว ทำให้ตนได้พบความผิดปกติในการดำเนินงานโครงการ 9101 คือในโครงการที่ตนถูกนำชื่อไปใช้ ไม่มีหลักฐานการเบิกจ่ายแต่มีการจ่ายเงิน และไม่พบเอกสารของตนในการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมดที่มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท จึงมาร้องต่อป.ป.ช.เพื่อล้างมลทินให้ตัวเองในประเด็นการหลีกเหลี่ยงภาษีและต้องการให้ขยายผลการจัดซื้อจัดจ้างที่มูลค่าเกินจริง เพราะเท่าที่พบมูลสัตว์ที่มีการซื้อขายกันเพียงหลักแสนแต่กลับมีการซื้อขายถึงหลักล้าน และอยากให้นำเงินของโครงการนี้กลับคืนแผ่นดิน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2563 ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถามข้อเท็จจริง กับนายธีระศักดิ์ ยมสวัสดิ์ เกษตร จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งให้ข้อมูลว่าตนเพิ่งมารับราชการ ที่ จ.กาฬสินธุ์ ได้ประมาณ 2 เดือน ส่วนกรณีที่มีผู้ไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ภาค 4 และมีการเชื่อมโยงถึงสำนักงานเกษตร จ.กาฬสินธุ์นั้น ตนทราบเรื่องเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีหนังสือท้วงมาจากผู้ร้อง ซึ่งเป็นชาว จ.ขอนแก่น ตนไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และทราบในเบื้องต้นว่า จากข้อมูลตามเอกสารทราบว่า ต้นเรื่องอยู่ในพื้นที่ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์
นายธีระศักดิ์กล่าวว่า หลังจากทราบที่มาที่ไปแล้ว จึงได้สั่งการให้เกษตรอำเภอยางตลาด ดำเนินการตรวจสอบหาหลักฐานการจัดซื้อจัดจ้างโครงการ 9101 ในประเด็นที่มีผู้ร้องเรียนเข้ามา และจะได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาอีกชุดหนึ่ง และตรวจสอบเอกสารการจัดซื้อจัดจ้างใหม่ทั้งหมด เพื่อทำความกระจ่างให้กับผู้ร้องและเพื่อให้เกิดความโปร่งใสเนื่องจากเป็นเงินแผ่นดิน อย่างไรก็ตามสำหรับโครงการ 9101 ในส่วนของสำนักงานเกษตรจังหวัดทำหน้าที่เป็นผู้ให้คำปรึกษา การขอโครงการและแนะนำกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ส่วนขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างนั้นเป็นอำนาจของชุมชนที่จะดำเนินการ ซึ่งได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการในแต่ละโครงการและบริหารกันเอง ทั้งนี้ เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในขณะนั้น