เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ นำกำลังชุดเฉพาะกิจ อส.ชรบ.และผู้นำหมู่บ้านเข้าปิดล้อมจับนักค้ายาเสพติด รวบสองพ่อลูก พร้อมช่างรับเหมาขณะกำลังมั่วสุมเสพยาคาบ้านพัก พร้อมยึดของกลางยาบ้ากว่า 3,388 เม็ด กัญชาและอุปกรณ์เสพยาบ้าจำนวนมาก
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 9 ธันวาคม 2562 นายสมเจตน์ เต็งมงคล นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ สั่งการให้นายพูนเพิ่ม พรไตรศักดิ์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่อส.ชรบ.และผู้นำชุมชนเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 12 ม.1 บ้านหนองแสง ต.ภูปอ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า บ้านหลังดังกล่าวมีการมั่วสุมเสพยาเสพติด และมีการจำหน่ายยาบ้าให้กับวัยรุ่นในพื้นที่
โดยเจ้าหน้าที่ไปถึงพบเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ 2 ชั้น และพบชาย 4 คนกำลังนั่งจับกลุ่มกันมั่วสุมเสพยาที่บริเวณแคร่ไม้ไผ่หลังบ้าน มีอุปกรณ์การเสพยาบ้าและกัญชาวางกระจัดกระจายอยู่เต็มโต๊ะ ซึ่งทันทีที่เห็นเจ้าหน้าที่ชายทั้งหมดต่างพากันแยกย้ายออกจากัน จึงได้ควบคุมตัวทั้งหมดไว้ ทราบชื่อต่อมาคือ นายสะเต็ก ทานิสุด อายุ 45 ปี นายวรยุทธ ทานิสุด อายุ 24 ปี สองพ่อลูกซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน นายนนทกร บุญบุตร อายุ 19 ปี และนายนิกร โยธาศึก อายุ 38 ปี เป็นช่างรับเหมาก่อสร้าง โดยเจ้าหน้าที่ได้ขอตรวจค้นกระเป๋าของนายวรยุทธ พบยาบ้า กัญชา และเงินสดจำนวนมาก ทั้งนี้นายวรยุทธ รับว่ายาบ้าและกัญชาเป็นของตน พร้อมกับนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในบ้านพัก ซึ่งพบยาบ้าและกัญชาถูกซุกซ่อนอยู่ในลิ้นชักตู้เสื้อผ้าอีกจำนวนมากเช่นกัน และจากการตรวจปัสสาวะทั้ง 4 คนก็พบว่าเป็นสีม่วงและมีสารเสพติด จึงนำตัวทั้งหมดมาสอบสวน พร้อมกับตรวจยึดของกลางยาบ้ารวมทั้งหมด 3,388 เม็ด กัญชา 191.9 กรัม และเงินสดจำนวนหนึ่ง
โดยนายวรยุทธ รับสารภาพว่า ยาบ้า และกัญชา รวมทั้งอุปกรณ์การเสพยาทั้งหมดเป็นของตนเองจริง ซึ่งได้ไปรับมาจากเครือข่ายค้ายาเสพติดรายหนึ่ง เพื่อนำมาขายให้กับกลุ่มวัยรุ่นและกลุ่มแรงงานในพื้นที่ในราคาเม็ดละ 80-100 บาท ส่วนนายนนทกร บุญบุตร และนายนิกร โยธาศึก เป็นคนงานก่อสร้างที่มารับจ้างปูกระเบื้อง ได้มาทำงานร่วมกับนายสะเต็ก ทานิสุด ซึ่งเป็นพ่อของตน โดยตนจะจ้างค่าแรงเป็นเงินและยาบ้า ซึ่งก่อนเกิดเหตุทั้งหมดก็ได้เสพยาบ้าอยู่ด้วยกัน จนถูกเจ้าหน้าที่เข้ามาจับได้ดังกล่าว ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนเคยถูกดำเนินคดีและถูกจำคุกคดียาเสพติดมาแล้ว และได้พ้นโทษออกมาได้ประมาณ 2 ปี แต่ไม่มีงานทำ จึงหันกลับมาค้ายาบ้าอีก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ได้ทำบันทึกการจับกุม พร้อมนำตัวนายวรยุทธ ทานิสุด และของกลางทั้งหมด ส่งให้กับพนักงานสอบสวนสภ.เมืองกาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินคดีในข้อหามียาเสพติดประเภท 1(ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ส่วนอีก 3 คน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเสพยาเสพติด และทำการบักทึกประวัติก่อนที่จะส่งตัวไปบำบัดรักษาต่อไป