แก๊งปาหินอาละวาด ตระเวนใช้ก้อนหินปาใส่รถเก๋งทั้งของ จนท.รพ. และเจ้าของร้านอาหารที่จอดไว้ริมถนนใกล้บ้านภายในคืนเดียวเสียหาย 2 คันซ้อน เจ้าของรถเผยไม่เคยมีเรื่องกับใครคาดก่อเหตุเพราะคึกคะนองหรือต้องการทรัพย์สินในรถ วอน จนท.เร่งติดตามตัวดำเนินคดี ตร.รุดตรวจสอบแกะรอยวงจรปิดเร่งล่าตัวคนร้าย














วันที่ 31 ส.ค. 2566 ร.ต.ท.หญิงปาณิสรา พิมพาชาติ ร้อยเวร สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายตระเวนปาก้อนหินใส่กระจกรถเก๋ง ที่จอดไว้ตามริมถนนหน้าบ้านและข้างบ้านในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์คืนเดียวถึง 2 คันซ้อน จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
โดยจุดแรกเป็นชุมชนหลักเมือง ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ พบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีดำ ทะเบียน กอ-4543 ขอนแก่น ซึ่งจอดไว้ริมถนนในซอยข้างบ้านพักเจ้าหน้าที่ธนารักษ์ ในสภาพกระจกด้านหน้าแตกเสียหาย และมีเศษกระจกแตกกระจายอยู่บริเวณที่ปัดน้ำฝนและกระโปรงรถด้วย ทั้งนี้จากการตรวจสอบรอบรถก็พบก้อนหินขนาดเท่ากำปั้น ตกอยู่ข้างรถ 1 ก้อนมีรอยสีขาวติดอยู่ด้วย จึงคาดว่าน่าจะเป็นก้อนหินที่คนร้ายใช้ก่อเหตุปากระจกรถจนแตกเสียหาย เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามนายณฐพล มูลศาสตร์ อายุ 33 ปี เจ้าของรถเก๋งคันดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่อยู่ที่ รพ.บุรีรัมย์ และรับงานร้องเพลงกลางคืนตามร้านอาหารด้วย โดยเมื่อคืนประมาณ 6 ทุ่มหลังกลับจากร้องเพลงที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ ก็ขับรถมาจอดไว้ริมถนนข้างบ้านพักเจ้าหน้าที่ธนารักษ์เพราะอยู่ใกล้บ้าน แล้วก็เข้าบ้านนอนตามปกติ พอตื่นเช้าภรรยาจะขับรถไปทำงานก็พบว่ากระจกด้านหน้าแตกและมีก้อนหินตกอยู่ข้างรถ จึงเชื่อว่ามีคนปาก้อนหินใส่ ส่วนตัวและภรรยายื่นยันว่าไม่เคยมีเรื่องกับใคร จึงคาดว่าคนร้ายอาจจะทำไปเพราะคึกคะนองหรือประสงค์ต่อทรัพย์หรือไม่ เพราะเห็นว่ามีรถถูกปาหินใส่ในลักษณะหลานคัน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปตรวจสอบรถเก๋งอีกคัน ที่ถูกปาหินใส่กระจกแตกเสียหายในคืนเดียวกัน คือรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีขาว หมายเลขทะเบียน งบ-3402 ชลบุรี ซึ่งจอดไว้ริมถนนในจิระนครซอย 5 ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ซึ่งสภาพรถก็ถูกปาหินใส่จนกระจกด้านหน้าแตกเสียหายเช่นกัน
โดยรถคันดังกล่าวเป็นของ น.ส.จุฑามาศ คำมาก อายุ 38 ปี แม่ค้าขายอาหารอีสาน ก็เล่าให้ฟังว่า ได้ขับรถมาจอดบริเวณดังกล่าวประมาณ 4 ทุ่มเมื่อคืน แล้วขึ้นไปนอนบนบ้านตามปกติ ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรผิดปกติ ส่วนตัวคิดว่าเป็นฝีมือวัยรุ่นคึกคะนองมากกว่า ไม่น่าจะประสงค์ต่อทรัพย์เพราะถ้าต้องการทรัพย์สินในรถคงทุบจนแตกแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาตนเองอจอดรถไว้บริเวณนี้เป็นประจำ แต่ไม่เคยเกิดเหตุลักษณะนี้มาก่อน อยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะทำให้คนอื่นเดือดร้อน ถ้าใครรถไม่มีประกันก็ยังโชคดี แต่ใครไม่มีประกันก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายซ่อมเอง แต่ถึงแม้จะมีประกันภัยก็ต้องเสียเวลาทำมาหากินเพราะต้องเอารถไปจอดซ่อมอีกหลายวัน