ข่าวอัพเดทรายวัน

ฝ่ายปกครองลงดาบสั่งปรับแพอาหารฝ่าฝืนมาตรการปภ.เทศกาลสงกรานต์

ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาขอนแก่น  ฝ่ายปกครองอำเภอสหัสขันธ์ ลงดาบสั่งปรับและสั่งห้ามใช้แพอาหาร หลังฝ่าฝืนมาตรการแนวทางการดูแลความปลอดภัยทางน้ำ เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยรวมทั้งป้องกันการเกิดอุบัติภัยต่างๆ ตามพรบ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ปี 50 ควบคู่กับการเฝ้าระวังป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (2019) COVID – 2019

เมื่อวันที่ 14 เมษายน 64 นายธนทร  ศรีนาค หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ นายตระกูล  หนูนิล  นายอำเภอสหัสขันธ์  เจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาขอนแก่น พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลโนนบุรี  กำลังฝ่ายปกครอง  เข้าตรวจสอบการนำแพลากเข้าน่านน้ำเขื่อนลำปาว  ซึ่งเป็นแพที่ไม่ได้รับอนุญาต และฝ่าฝืนคำสั่งตามมาตรการความปลอดภัยด้านอุบัติเหตุของ จ.กาฬสินธุ์ หลายครั้ง

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ประกอบการได้นำแพที่ไม่ได้รับอนุญาตลากไปในเขื่อนลำปาวเพื่อล่องแพ  ซึ่งถือเป็นการฝ่าฝืนมาตรการรักษาความปลอดภัยของ จ.กาฬสินธุ์ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์  รวมถึงมาตรการความปลอดภัยตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ปี 50 โดยได้มีการตักเตือนมาตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งพบว่าได้ลักลอบกระทำเช่นเดิมซึ่งเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเจ้าท่าฯ ฝ่ายปกครอง ได้ตักเตือน จนกระทั่งวันที่ 13 เม.ย. ยังนำแพที่ไม่มีใบอนุญาตออกล่องแพในเขื่อนลำปาว  โดยไม่เกรงกลัวเจ้าหน้าที่  และยังละเลยมาตรการป้องกันโควิด ปล่อยให้มีผู้นำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปดื่มในแพ ซึ่งมีการคิดค่าบริการด้วย

นายธนทร  ศรีนาค  หน.สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์  กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ได้แจ้งพฤติกรรมของผู้ประกอบการ ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.กาฬสินธุ์ จึงได้เข้าตรวจสอบ ร่วมกับทางนายอำเภอสหัสขันธ์และเทศบาลตำบลโนนบุรี  ซึ่งพบว่าผู้ประกอบการฝ่าฝืนมาตรการรักษาความปลอดภัยเทศกาลสงกรานต์ แม้ว่าจะมีการตักเตือน ดำเนินการปรับแล้ว  ยังมีเจตนาที่จะฝ่าฝืนกระทำผิดต่อเนื่อง  ซึ่งจำเป็นจะต้องดำเนินการตามมาตรการโดยสั่งให้ปิดการบริการไปก่อนจนผู้ประกอบการจะดำเนินการปรับปรุงให้ถูกต้อง  จากการตรวจสอบเบื้องต้นตัวแพ ไม่มีความมั่นคง ไม่มีความปลอดภัย เสื้อชูชีพไม่เพียงพอ  ไม่มีอุปกรณ์กู้ชีพทางน้ำในแพ และไม่จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการแพ   จึงต้องให้ปิดบริการชั่วคราวเพื่อให้ปรับปรุงแก้ไข แต่หากพบว่ามีการฝ่าฝืนก็จะสั่งปิดถาวรในทันที