ข่าวอาชญากรรม

บุรีรัมย์ ญาติรอรับศพ 2 แรงงานเหยื่อสงครามอิสราเอลกลับบ้านเกิดแม่เผยย้อนเวลาได้จะไม่ให้ลูกไปทำงานต่างแดน

แรงงานเหยื่อสงครามอิสราเอลกลับบ้านเกิดแม่เผยย้อนเวลาได้จะไม่ให้ลูกไปทำงานต่างแดนญาติรอรับศพ 2 แรงงานชาว อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ เหยื่อสงครามอิสราเอลกลับบำเพ็ญกุศลบ้านเกิดคาดถึง 2 ทุ่มคืนนี้

เมีย-แม่เผยยังทำใจไม่ได้แต่ขอเห็นหน้าครั้งสุดท้ายไม่ว่าจะอยู่ในสภาพไหน เผยหากย้อนเวลาได้จะไม่ให้เสี่ยงไปทำงานต่างแดน ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ช่วยติดต่อประสานตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.ที่ติดต่อไม่ได้ จนได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิตและนำร่างไร้วิญญาณกลับบ้าน(16 พ.ย.66) นางเอมอร เรียงไข อายุ 59 ปี และ น.ส.สายชล ชาติกุญชร อายุ 38 ปี แม่และภรรยาของนายจักรพันธ์ เดี่ยวไธสง อายุ 37 ปี แรงงานชาว ต.บ้านเป้า อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ได้เฝ้ารอรับศพนายจักรพันธ์ ที่เสียชีวิตจากเหตุสู้รบในอิสราเอล ที่ทางการได้ช่วยเหลือนำร่างกลับมาประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด เช่นเดียวกับนายธนกร พร้อมด้วยนางรัญจวน ยอดทองดี พ่อและแม่ของนายเทียนชัย ยอดทองดี อายุ 32 ปี แรงงานชาวตำบลบ้านยาง อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ก็เฝ้ารอศพลูกชายที่เสียชีวิตจากเหตุสู้รบในอิสราเอล เช่นกัน โดยคาดว่าศพของแรงงานทั้ง 2 ราย จะกลับมาถึงบ้านเวลา 20.00 น. คืนนี้ (16 พ.ย.66) ซึ่งทั้ง 2 ครอบครัวต่างจัดเตรียมสถานที่ไว้รอรับศพแรงงานไว้ที่บ้านท่ามกลางความโศกเศร้า ซึ่งแรงงานทั้ง 2 ราย ขาดการติดต่อกับครอบครัวตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.66 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุวันแรก ครอบครัวพยายามประสานกับหน่วยงานภาครัฐเพื่อติดตามหาแรงงานทั้งคู่ กระทั่งเมื่อกลางเดือน ต.ค.มีรายชื่อว่าเป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สู้รบในอิสราเอลแล้ว แต่ยังรอการตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ยืนยันจากทางการอิสราเอล กระทั่งล่าสุดผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์เรียบร้อยและทางการไทยได้ติดต่อประสานเพื่อนำร่างแรงงานส่งกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด

น.ส.สายชล ชาติกุญชร ภรรยานายจักรพันธ์ บอกว่า ยังทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียสามีแต่ก็ต้องทำใจให้เข้มแข็ง เพราะหลังจากนี้ต้องทำหน้าที่เป็นเสาหลักของครอบครัวแทนสามี เพื่อดูแลย่าและลูกชาย วันนี้ก็ได้เตรียมเสื้อกีฬาตัวโปรดไว้ให้สามี เพราะสามีชอบใส่เสื้อกีฬาเพราะสามีชอบเล่นฟุตบอลเคยเป็นมือโกของทีมฟุตบอลด้วย ทั้งยังเป็นอดีตทหารผ่านศึกเคยไปทำหน้าที่รับใช้ชาติอยู่ที่ชายแดนใต้มาแล้ว ก็ภูมิใจในตัวสามี แต่ไม่คิดว่าสามีจะมาจากไปเร็วขนาดนี้ ตอนที่ติดต่อสามีไม่ได้ก็มีความหวังตลอดว่าสามีจะรอดชีวิตแต่ก็ไม่มีปาฏิหาริย์ แต่ก็ขอบคุณทุกหน่วยงานทุกภาคส่วนที่ช่วยเหลือในการประสานงานตั้งแต่ที่ติดต่อสามีไม่ได้ กระทั่งช่วยนำร่างสามีกลับมาบ้าน ด้านนางเอมอร เรียงไข แม่นายจักรพันธ์ ก็บอกว่า ยังทำใจเหมือนกันที่สูญเสียลูกชาย เพราะเหลือเพียงอีก 5 เดือนก็จะครบกำหนดได้เดินทางกลับแล้ว แต่ก็มาเสียชีวิตจากเหตุสู้รบก่อน พอทราบข่าวว่าลูกเสียชีวิตแล้วก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ และหากย้อนเวลากลับไปได้ก็จะไม่ให้ลูกไปทำงานที่อิสราเอล จะให้ทำงานในไทยแม้จะลำบากและได้ค่าแรงต่ำกว่า แต่อย่างน้อยเขาก็จะยังมีชีวิต ลูกเป็นเสาหลักของครอบครัว วันนี้อยากเห็นหน้าลูกเป็นครั้งสุดท้ายแม้ว่าจะอยู่ในสภาพไหนก็ตาม ก็ขอให้ลูกไปอยู่ในภพภูมิที่ดี ไม่ต้องเป็นห่วงแม่ เมีย กับลูก