ตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ผลการดำเนินยุทธการไล่ล่านักค้าอีสานเหนือ 252 ( เด็ดปีกนักค้า ) ตั้งแต่ 15 ธ.ค. 2566 ถึง 31 ม.ค.2567 สามารถจับกุมและยึดอายัดทรัพย์ได้เป็นจำนวนมาก
วันที่ 30 ม.ค.67 ณ หน้าอาคาร ตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร ตามนโยบาย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และสกัดกั้นการแพร่ระบาดยาเสพติด ตามภารกิจเร่งด่วน ตัดวงจรผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในปี 2567 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตำรวจภูธรภาค 4 ภายใต้การนำของ พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน รอง ผบช.ภ.4 ได้ประสานความร่วมมือกับ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 4 เปิดยุทธการ ปฏิบัติการ/ไล่ล่า (เด็ดปีก)นักค้าอีสานเหนือ 252 ในพื้นที่ รับผิดชอบ ตำรวจภูธรภาค 4 ทั้ง 252 สถานีตำรวจ โดยให้ดำเนินการเข้าปฏิบัติการในพื้นที่เป้าหมายตั้งแต่ วันที่ 15 ธันวาคม 2566 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2567
ตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร โดย พล.ต.ต.ชัชชัย วงค์สุนะ ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร ,พ.ต.อ.ธานินทร์ อินทพรต รอง ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร , พ.ต.อ.กิตเตชิษฐ์ บำรุง รอง ผบก.ภ.จว.มุกดาหาร, ผู้กำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร, หัวหน้าสถานีตำรวจในสังกัด, เจ้าหน้าที่ตำรวจ, ตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร นำโดย พ.ต.ท.ธนูศิลป์ ดวงแก้วงาม รอง ผกก.ตรวจคนเข้าเมืองมุกดาหาร ,เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง, เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร และหน่วยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันแถลงผลการดำเนินยุทธการไล่ล่านักค้าอีสานเหนือ 252 (เด็ดปีกนักค้า) “No place for drug” (NPD.P๔) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการปราบปรามนักค้า ยาเสพติดรายย่อยและ เครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ โดยปฏิบัติการเชิงรุก สอบสวนขยายผลจาก ผู้เสพ ผู้ค้ารายย่อยรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายจับผู้ค้าผู้เกี่ยวข้อง แล้วขอหมายคันเช้าดำเนินการปิดล้อม ตรวจค้นจับกุม ยึดอายัดทรัพย์ บุคคลตามหมายจับในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดยาเสพติดทุกราย โดยมีการปล่อยแถวระดมปิดล้อมตรวจค้นพร้อมกัน เมื่อวันจันทร์ที่ 24 มกราคม2567 ที่ผ่านมานั้น
ผลการปฏิบัติตามยุทธการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2566 จนถึงวันที่ 29 มกราคม 2567 สามารถดำเนินการตรวจค้นจับกุมเป้าหมาย จำนวน 30 หมาย จับกุม ผู้ต้องหา 29 คน ตรวจยึด อายัดทรัพย์สิน เพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดี ยาเสพติด พ.ศ. 2564 เงินสด 14,960 บาท ทองรูปพรรณ 33,000 บาท รถยนต์ จำนวน 3 คัน มูลค่า 1,500,000 บาท รถจักรยานยนต์ จำนวน 14 คัน มูลค่า 405,000 บาท รายการอื่นๆ(สมุดบัญชี) จำนวน 112,979 บาท และได้ขยายผลรายสำคัญยึดทรัพย์รวมมูลค่า 1,657,490 บาท รวมยึดอายัดทรัพย์ 3,695,430 บาท ..