ข่าวอาชญากรรม

บุรีรัมย์ คนขับฟอร์จูนเนอร์ตัวจริงชน จยย.หนุ่มช่างตัดผมดับรับข้อกล่าวหาอ้างตกใจ ตร.แจ้ง 2 ข้อหา

คืบหน้า คนขับรถฟอร์จูนเนอร์ตัวจริงที่ชน จยย. หนุ่มช่างตัดผมชาว อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ เสียชีวิตไป เข้ามอบตัวและรับทราบข้อกล่าวหาแล้วอ้างตกใจ ตำรวจแจ้ง 2 ข้อหา ส่วนชายสูงอายุที่รับเป็นคนขับตอนแรกที่แท้เป็นพ่ออ้างตกใจเหมือนกัน ตร.ไม่ได้แจ้งข้อหาเพราะไม่เชื่อตั้งแต่แรกและทำตามพยานหลักฐาน ขณะแม่คนตายอยากให้คนขับตัวจริงมาขอขมาศพ

ความคืบหน้า กรณีที่รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ชนกับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวป สีม่วง ที่บริเวณสี่แยกบ้านปลื้มพัฒนา ถนนปะคำ-เสิงสาง ต.โคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ เมื่อคืนวันที่ (22 มี.ค.67) ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ นายองอาจ อันโย อายุ 28 ปี คนขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งมีอาชีพเป็นช่างตัดผม เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ซึ่งกล้องวงจรปิดของร้านค้าและบ้านเรือนประชาชนใกล้จุดเกิดเหตุสามารถบันทึกภาพอุบัติเหตุดังกล่าวได้อย่างชัดเจน โดยในกล้องวงจรปิดไม่เห็นจังหวะที่ชนว่าชนในลักษณะใด แต่ได้ยินเสียงบีบแตรและเสียงชนอย่างแรง ก่อนจะเห็นภาพรถฟอร์จูนเนอร์ปรากฎในกล้องวงจรปิดเหมือนกับพยายามจะเบรกจนรถเสียหลักไปจอดอยู่กลางถนน ส่วนรถ จยย.ที่ถูกชนครูดไปกับพื้นถนนจนเกิดประกายไฟ ส่วนคนขับ จยย.ก็กลิ้งไปตามถนนก่อนจะนอนแน่นิ่ง จากนั้นก็เห็นคนขับเป็นผู้ชายคาดว่าน่าจะอายุไม่เกิน 40 ปีลงมาจากรถฟอร์จูนเนอร์ เดินไปมาบางช่วงเหมือนมีการโทรศัพท์ แต่พอช่วงตำรวจมาตรวจสอบที่เกิดเหตุกลับมีชายสูงอายุ ยอมรับว่าเป็นคนขับรถฟอร์จูนเนอร์ แต่ทำให้ญาติคาใจเพราะคนที่ยอมรับว่าเป็นคนขับไม่ตรงตามภาพที่ปรากฎในกล้องวงจรปิด

ล่าสุดวันที่ 25 มี.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงาน นายพิพัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี คนขับรถฟอร์จูนเนอร์ตัวจริงที่ชน จยย.ของนายองอาจ ช่างตัดผมเสียชีวิตได้เข้ามอบตัวและรับทราบข้อกล่าวหา กับพนักงานสอบสวน สภ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ แล้ว โดยอ้างว่าตกใจจึงไม่ได้รับแสดงตัวว่าเป็นคนขับรถ กระทั่งพ่อมาที่เกิดเหตุจึงยอมรับว่าเป็นคนขับแทน ไม่ได้เจตนาจะเปลี่ยนตัวคนขับแต่อย่างใด และยืนยันว่าไม่ได้เมา ซึ่งเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งกล่าวหา 2 ข้อหา “ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินเสียหาย” ซึ่งหลังจากนี้พนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมพยานหลักฐานสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการตามกระบวนการขั้นตอน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ส่วนชายสูงอายุ ซึ่งเป็นพ่อของคนขับตัวจริง ที่มาแสดงตัวว่าเป็นคนขับแทนลูกนั้น ตำรวจไม่ได้แจ้งข้อหา เนื่องจากตำรวจไม่ได้ปักใจเชื่อและลงในสำนวนตั้งแต่แรกว่าเป็นคนขับ ซึ่งตอนนั้นอยู่ระหว่างการสอบปากคำพยาน และหาหลักฐาน กระทั่งพบหลักฐานว่าคนขับตัวจริงเป็นใคร และได้เดินทางมารับทราบข้อหากล่าวหาแล้ว

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางยังบ้านของผู้เสียชีวิต พบว่าทางครอบครัวเตรียมจะเคลื่อนศพไปประกอบพิธีฌาปนกิจที่วัดในหมู่บ้านในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งจากการสอบถาม นางคันธร อัญโย อายุ 60 ปี แม่ผู้ตายบอกว่า หลังจากทราบว่าคนขับรถตัวจริงที่ชนลูกชายเสียชีวิตเข้ารับทราบข้อกล่าวหากับทางตำรวจ ก็ดีใจ ก็ขอบคุณทางผู้การฯ ตำรวจ ผู้กำกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และทุกหน่วยงานที่ช่วยเหลือให้ความเป็นธรรม ส่วนเรื่องการเยียวยากรณีที่ลูกชายเสียชีวิตนั้น ยังไม่ได้พูดคุยกันและทางครอบครัวก็ยังไม่พร้อมที่จะพูดคุยตอนนี้ ขอจัดงานศพให้เรียบร้อยก่อน แต่ก็เชื่อว่าจะได้รับการเยียวยาอย่างเป็นธรรมกับที่สูญเสียลูกชาย อย่างไรก็ตามก็อยากให้คนขับรถตัวจริงมาขอขมาศพลูกชาย เพื่อขออโหสิกรรมต่อกัน เพราะที่ผ่านมามีเพียงพ่อและแม่ของเขามาช่วยงานศพ 2 หมื่น และรับปากว่าจะดูแลเยียวยาเพิ่มเติม แต่ยังไม่ได้พูดคุยกันในรายละเอียดตรงนี้ ก็อยากจะจัดงานศพลูกชายให้เรียบร้อยก่อน