เกิดเหตุไฟไหม้พระอุโบสถ วัดพระธาตุบังพวน หนองคาย สร้างจากไม้เสียหายทั้งหมด เหลือเพียงพระประธานปูนปั้น ตำรวจเจอหญิงต้องสงสัยคล้ายสติไม่ดีป้วนเปี้ยนในวัด ไม่นานไฟลุกไหม้ ตามค้นบ้านเจอของที่อยู่ในพระอุโบสถ คุมตัวสอบ
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 12 เม.ย.2567 พ.ต.อ.ยุทธนา งามชัด ผกก.สภ.เมืองหนองคาย ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้พระอุโบสถ ภายในวัดพระธาตุบังพวน ต.พระธาตุบังพวน อ.เมืองหนองคาย จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.อ.สกล สิทธิวิชัย รอง ผบก.ภ.จ.หนองคาย, นายสุชาติ ทอนมณี นายอำเภอเมืองหนองคาย, นายอุรุยศ เอียสกุล นายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย ระดมรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองหนองคาย , อบจ.หนองคาย, เทศบาลเมืองท่าบ่อ, อบต.พระธาตุบังพวน และเทศบาลข้างเคียงนับสิบคัน เข้าควบคุมเพลิง โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาประมาณ 1.30 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ จากการตรวจสอบพบว่าภายในพระอุโบสถพื้นปูด้วยไม้ปาเก้ เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ข้าวของภายในพระอุโบสถซึ่งส่วนใหญ่จะใช้สำหรับประกอบพิธีทางศาสนา สวดมนต์ไหว้พระ อาสนสงฆ์ และอื่น ๆ ล้วนถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด ยกเว้นพระประธานองค์ใหญ่ที่สร้างจากปูนปั้นเท่านั้นที่ไม่ได้รับความเสียหายจากเพลิงไหม้ในครั้งนี้
ระหว่างที่พระครูภาวนาเจติยาภิบาล (ทวี มหาวีโร) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุบังพวน เจ้าคณะตำบลพระธาตุบังพวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทราบว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งขี่จักรยานป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ หลังจากขี่จักรยานออกไปไม่นานก็เกิดเพลิงลุกไหม้ภายในพระอุโบสถ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าตรวจสอบที่บ้านของหญิงสาวคนดังกล่าวซึ่งอยู่ตรงข้ามกับวัดพระธาตุบังพวน พบว่าหญิงสาวพูดจาไม่รู้เรื่อง คล้ายคนสติไม่ดี แต่จากการตรวจสอบรอบบ้านพบถุงคล้ายย่ามใบใหญ่ ภายในมีของใช้ เช่น กล่องกระดาษชำระ กระโถน แจกันดอกไม้ ตาลปัตร พระลูกวัดจำได้ว่าเป็นของใช้ภายในพระอุโบสถ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวไปสอบสวนอย่างละเอียด ซึ่งยังไม่สามารถชี้ชัดว่าสาเหตุเกิดจากการวางเพลิง อุบัติเหตุ หรือไฟฟ้าลัดวงจร
สำหรับพระอุโบสถ หลังนี้ เพิ่งสร้างใหม่ได้ไม่นาน มีการก่อสร้างที่วิจิตรงดงาม เป็นที่สำหรับใช้ประกอบพิธีทางพระพุทธศาสนา หรือใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรม อบรมจริยธรรม รวมถึงมอบรางวัลต่างๆ ตามที่ทางวัดเป็นผู้จัดงาน และหน่วยงานข้างเคียงขอใช้สถานที่ การเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ทำให้ประชาชนชาวหนองคายและลูกศิษย์ของพระครูภาวนาเจติยาภิบาลที่ทราบข่าวเสียใจและสะเทือนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก.