ข่าวอาชญากรรม

บุรีรัมย์ สืบภาค 3 จัดกำลังลงพื้นที่ล่ามือยิง เร่งตรวจสอบประวัติเสี่ยดำเจ้าของค่ายมวยคลี่ปมสังหารโหดต่อหน้าลูก

ตำรวภูธรภาค 3 และตำรวจภูธรจ.บุรีรัมย์ จัดกำลังชุดสืบสวนภาค 3 และสืบจังหวัด ร่วมกับสืบ สภ.กระสัง ลงพื้นที่หาเบาะแสหลักฐาน พร้อมตรวจสอบประวัติ เจ้าของค่ายมวย ดำช่องจอม และสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง คลี่ปมสังหารโหดดับคารถตู้ต่อหน้าลูก ขณะนำมวยเด็กมาชกในงานฉลองพัดยศเจ้าอาวาสที่ อ.กระสัง เร่งล่าตัวมือยิงมาดำเนินคดี

ความคืบหน้ากรณีที่นายเปลี่ยนวิถี หรือฉายา “เสี่ยดำ ช่องจอม” อายุ 56 ปี ชาว ต.โชคนาสาม อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นเจ้าของค่ายมวยแห่งหนึ่งใน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และดูแลตลาดการค้าชายแดนช่องจอม จ.สุรินทร์ ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด จ่อยิงในระยะเผาขน กระสุนเจาะบริเวณท้ายทอยและศีรษะ 2 นัด เสียชีวิตในลักษณะเอนเบาะนอน อยู่บนเบาะคนขับในรถตู้ ยี่ห้อฮุนได สีเทา ป้ายทะเบียนกัมพูชา หลังนำมวยเด็กมาร่วมชกในงานฉลองพัดยศเจ้าอาวาสวัดหนองเต็ง ต.หนองเต็ง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 04.00 น.ของวันที่ (22 เม.ย.67) ที่ผ่านมา

ล่าสุดวันนี้ (23 เม.ย.67) กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วยกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ได้จัดกำลังชุดสืบสวนภาค 3 และชุดสืบสวนภูธรจังหวัด ร่วมกับชุดสืบในพื้นที่ สภ.กระสัง ลงพื้นที่หาข้อมูลหลักฐาน ไล่กล้องวงจรปิด และตรวจสอบประวัติของผู้ตาย พร้อมทั้งได้สอบปากคำพยานและผู้เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นเบาะแสในการคลี่ปมที่ถูกยิงเสียชีวิต

ด้าน พ.ต.อ.ธีรพล ยมนา ผู้กับการการสถานีตำรวจภูธรกระสัง ระบุว่า สำหรับมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุยิงเจ้าของค่ายมวยเสียชีวิตนั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชู้สาวเนื่องจากข้อมูลทราบว่าผู้ตายมีภรรยาทั้งฝั่งไทยและฝั่งกัมพูชา , ประเด็นความขัดแย้งส่วนตัวก็อยู่ระหว่างตรวจสอบเพราะผู้ตายเป็นคนนอกพื้นที่ รวมถึงรถที่ผู้ตายขับมาก็เป็นรถทะเบียนกัมพูชาก็ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเป็นรถของผู้ตายหรือรถใคร รวมถึงประเด็นเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจก็ต้องสืบสวนในเชิงลึกเช่นกัน เพราะนอกจากผู้ตายจะเป็นเจ้าของค่ายมวยแล้ว ยังมีธุรกิจดูแลตลาดชายแดนด้วย ซึ่งตำรวจก็จะสืบสวนในทุกประเด็นเพื่อให้ทราบเหตุจูงใจที่แท้จริง เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สุรชัย พิรักษา / บุรีรัมย์