ข่าวอาชญากรรม

อุดรธานี ตร.เรียกกิ๊กพ่อเฒ่าพร้อมคู่เขยผู้ต้องสงสัยจ่อยิงอกพ่อเฒ่าดับคาไร่มันมาสอบ

จากกรณีที่เมื่อเวลา 06.30 น.วันที่ 24 เมษายน ร.ต.อ. ชินาธิป บัวเข็มรอง สว. (สอบสวน) สภ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิตในไร่มันสำปะหลัง ด้านทิศตะวันออกของบ้านโคกกลาง หมู่ 13 ต.โคกกลาง อ.โนนสอาด จ.อุดรธานี ต่อมาพบว่าผู้เสียชีวิตคือนายพิจิตร์ ว่องไว อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ 2 ต.โคกกลาง อ. โนนสะอาด จ.อุดรธานี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกปลายเข้าหน้าอก 5 ลูก กระสุนฝังใน ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 24 เมษายน พ.ต.ท.ณัฐพล มุงคำภา รอง ผกก. สส.สภ.โนนสะอาด พ.ต.ท.อรรคพล วงษ์ฤทธิวัลย์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.ต.ปิลันธน์ ศรีสถาน สว.สส.สภ.โนนสสะอาด พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.โนนสะอาด, ชุดสืบสวน ภ.จว.อุดรธานี และชุดสืบสวน ภ.4 เชิญตัวนางหนูเพียร โชติช่วง อายุ 54 ปี (กิ๊กของผู้ตาย) อยู่บ้านเลขที่ 149 ม.10 บ.โคกกลาง อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี และนายชั้น โซ่เงิน อายุ 76 ปี (เขยใหญ่) อยู่บ้านเลขที่ 163 ม.13 ต.โคกกลาง อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี มาทำการสอบสวนในฐานเป็น ผู้ต้องสงสัยในคดียิงอก นายพิจิตร์ ว่องไว เสียชีวิตที่ทางเข้าไร่มันสำปะหลังของตัวเอง อยู่ทิศตะวันออกหมู่บ้านโคกกลาง ม.13 ต.โคกกลาง อ.โนนสะอาด มาสอบปากคำ และตรวจสอบเขม่าดินปืน ที่ ชุดสืบสวน สภ.โนนสะอาด และนำเสื้อผ้าของนายสมาน หีบแก้ว อายุ 60 ปี คู่เขย หรือเขยคนกลาง ที่เป็นผู้พบศพคนแรกส่งให้ชุดพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ หลังจากตรวจเขม่าดินปืนตามร่างกายของกิ๊ก และเขยใหญ่ของผู้ตายแล้วเสร็จ คาดประมาณ 1 สัปดาห์รู้ผลตรวจ

โดยตำรวจตั้งปมไว้ 2 ประเด็น คือแค้นส่วนตัวและชู้สาว หลังเกิดเหตุชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ หาหลักฐานกล้องวงจรปิดที่ลานรับซื้อมันสำปะหลัง ที่อยู่ทางออกหมู่บ้านโคกกลาง แต่มุมกล้องส่องไปไม่ถึง พร้อมกับหาพยานหลักฐานจุดเชื่อมโยงในคดี ซึ่งตำรวจทีมไล่ล่าคาดว่าจะจับตัวคนร้ายได้เร็ววันนี้ แต่ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้แน่ชัดก่อน เพราะผู้ตายเป็นคนเจ้าชู้มีผู้หญิงสาวแก่แม่ม่ายมาติดพันกันมาก เนื่องจากผู้ตายมีหน้าตาดี ถึงแม้จะอายุมากก็ตาม

นางหนูเพียรฯ กิ๊กผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนได้แยกทางกับสามีเก่าที่เป็นชาวสุรินทร์มาได้ 3 ปี แล้วหลังจากมีลูกชายด้วยกัน 3 คน แต่ได้แอบคบหาเป็นกิ๊กกับผู้ตายมาได้ประมาณ 6-7 ปีแล้ว กระทั่งภรรยาของนายพิจิตร์ฯ เขาจับได้ในวันที่ 12 มีนาคม ที่ผ่านมา เนื่องจากมีคนไปบอกว่า นายพิจิตร์ฯ คบหาเชิงชู้สาวกับตนมาหลายปีแล้ว หลังจากถูกจับได้ ตนและผู้ตายก็ยังแอบโทรติดต่อกัน และนัดหมายไปมาหาสู่กัน 2-3 ครั้ง แต่หลังจากวันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเกิดของนายพิจิตร์ บอกตนว่าโทรศัพท์ถูกภรรยายึดเอาไว้ไม่ต้องโทรมาหา แต่ตนก็ส่งข้อความผ่านไลน์กลับไปหา เพื่อให้อ่านเฉยๆไม่ต้องตอบ เดี๋ยวมันจะมีข้อความขึ้น เพราะความคิดถึงจึงได้ไลน์หากัน ถ้าผู้ตายออกมาให้ข้าวสุนัขที่กระท่อมนา ก็จะโทรหานัดหมายกัน

หลังจากเกิดเหตุตนก็ถูกสงสัยว่าเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของนายพิจิตร์ฯ แต่ตนไม่มีทางทำแบบนี้อย่างแน่นอน เพราะคบหากันมาหลายปี มีความรักกัน เวลาเขาไม่มีเงินใช้ ตนก็ให้เงินใช้ ส่วนมากนายพิจิตร์ฯ จะไม่ได้เอาเงินให้ตน เพราะถ้าทางบ้านรู้จะมีเรื่องกัน และจะคบหากันไม่ได้ และเรื่องก็แดงขึ้นหลังจากที่มีชาวบ้านไปบอกภรรยานายพิจิตร์ นอกจากนายพิจิตร์ ตนก็มีคนคุยอยู่ แต่ไม่ได้คิดอะไรมาก คุยเล่นกันธรรมดา ตนยืนยันว่ารักพ่อ คือนายพิจิตร์ฯมาก เพราะตอนคบกันตนจะเรียกพ่อตลอด ตนก็อยากบอกทางภรรยานายพิจิตร์ฯ ว่า ตนไม่ได้เป็นคนทำ เพราะไม่ได้หวังเอาอะไรจากนายพิจิตร์ฯ ส่วนมือที่ 3 นั้นก็ไม่มี ตนขอยืนยัน 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าไม่ได้ทำแน่นอน

“ช่วงที่ผ่านมาภรรยานายพิจิตร์ฯ ยังไม่ทราบเรื่อง ตนกับนายพิจิตร์ฯจะโทรคุยกันช่วงเวลาประมาณตี 2 ของทุกวันที่นายพิจิตร์ออกจากบ้านมาสวนไร่นา และทุกวันนี้ก็ยังแอบคบหากัน แล้วตนจะไปทำร้ายเขาทำไม ส่วนเรื่องที่นายพิจิตร์ ถูกยิงเสียชีวิต ตนก็เสียใจ ตนคิดไม่ออกและไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ พอรู้ข่าวตนก็เสียใจ เพราะเพิ่งโทรคุยกันเวลา 04.30 น. เขาบอกว่า รักแม่เด้อ พ่อไปทำงานก่อนเด้อ เดี่ยวพรุ่งนี้ค่อยออกมาหากัน ซึ่งนายพิจิตร์ฯ เคยบอกว่ารักตนและภรรยาทั้ง 2 คนเท่ากัน และช่วง 2-3 วันนี้ เขาไม่ได้โทรมาหาตน เพราะโทรศัพท์เขาอยู่กับเมีย ทำให้ติดต่อกันยาก เพราะมีคนคอยเฝ้าดูอยู่ เช้ามืดวันนี้เขาจะไปขุดมัน ตนก็คิดว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย ที่ผู้ตายกับตนได้โทรคุยกัน ก่อนเขาจะถูกยิงเสียชีวิต”

ด้านนายชั้น โซ่เงิน เขยใหญ่ เปิดเผยว่า วันนี้ตนมาพบตำรวจ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ในการสอบปากคำ และตรวจสอบคราบเขม่าดินปืน เพราะตนไม่ได้เป็นคนทำ และจะทำไปเพื่ออะไร ตนกับผู้ตายรวมทั้งเขยคนกลางที่มาพบศพ ก็รักใคร่ปองดองกันกับผู้ตายมาตลอด มีอะไรก็แบ่งกันกิน เพราะผู้ตายเป็นเขยเล็ก และมีไร่มันสำปะหลังติดกับสวนยางพาราของตน และติดกับไร่มันสำปะหลังของเขยคนกลาง ด้วย หลังจากแม่ยายและพ่อตาได้แบ่งให้ลูกๆทั้งหมด 6 คน และขอยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นคนก่อเหตุ ยิงเขยคนเล็กอย่างแน่นอน

นายชั้นฯ กล่าวต่อไปว่า ขณะตนกับหลานชายกลับบ้านเวลาเกือบตี 5 หลังช่วยกันกรีดยางแล้วเสร็จ ยังเห็นแสงไฟหน้ารถไถผู้ตายขับเข้ามาทางไร่มัน แต่ไม่ได้ยินเสียงปืน ไม่คิดว่าเขยเล็กจะมาถูกยิงตายด้วย ส่วนสาเหตุตนไม่รู้ เพราะผู้ตายไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใคร รวมทั้งญาติพี่น้อง แต่เขาจะเป็นคนเจ้าชู้