ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 09.30 น. ขณะที่นายอานันท์ ธัญญารักษ์ อายุ 43 ปี และนางสาววรรญา พลดงนอก ภรรยา อายุ 34 ปี อยู่ที่บ้านพักเลขที่ 246 หมู่3 ตำบลกกดู่ อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย ได้มีผู้ก่อเหตุจำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ 1 คัน มาจอดรถที่หน้าบ้าน แล้วบุกรุกเข้าไปในบ้านและทวงหนี้กับนางสาววรรณา ฯ นายอานันท์ฯสามี จึงมีการทักท้วงและทวงถามเรื่องที่เกิดขึ้น จนทำให้ผู้ก่อเหตุที่เป็นเจ้าหนี้ไม่พอใจ ได้ใช้มีดปลายแหลมที่พกมาด้วยแทงนายอานันท์ฯถูกที่บริเวณเอวด้านซ้ายจำนวน 1 แผล และแขนด้านซ้าย จำนวน 1 แผลได้รับบาดเจ็บ แล้วผู้ก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป จึงมีการแจ้งเหตุมา ที่ สภ.เมืองเลย เจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไประงับเหตุ และมีการนำตัวผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเลย
พล.ต.ต.สุรชัย สังขพัฒน์ ผบก.ภ.จ.เลย พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.ธนาวัชร ดีบุญมี ณ ชุมแพ รอง ผบก.ภ.จ.เลย หัวหน้า ศปน.ภ.จ.เลย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดีออกสืบสวนติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีโดยเร่งด่วน ต่อมา วันที่ 29 มีนาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเลย และชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จ.เลย บก.สส.ภ.4 สืบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุทั้งสองราย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายค้นจากศาลจังหวัดเลย และนำหมายค้นศาลจังหวัดเลย ที่ 89/2566 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 502 หมู่บ้านวังเงินวังทอง ต.วังสะพุง อ.วังสะพุง จ.เลย ซึ่งเป็นบ้านพักของนายชลธี เจนสาริกรณ์ อายุ 18 ปี ตรวจยึดสมุดบัญชีธนาคารกสิกรไทย หมายเลขบัญชี 0978932515 ชื่อบัญชี นายชลธี เจนสาริกรณ์ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย และนำหมายค้นศาลจังหวัดเลย ที่ 90/2566 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 157 หมู่ที่ 4 ต.หนองบัว อ.ภูเรือ จ.เลย ซึ่งเป็นบ้านภรรยาของนายศุภสัณห์ หรือปันปัน ไชยวงศ์ อายุ 31 ปี ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
จากการสอบสวนทั้งสองคนให้การรับว่า เป็นผู้ก่อเหตุในคดีนี้ โดยเป็นเจ้าหนี้ และทวงหนี้โดยใช้กำลังทำร้ายผู้บาดเจ็บจริง โดยหนี้ที่เกิดขึ้นเป็นหนี้ ที่นางวรรณาภรรยาผู้บาดเจ็บได้กู้เงินจำนวน 6,000 บาท จากเจ้าหนี้ ตกลงชำระหนี้จ่ายเงินต้นและดอกเบี้ย วันละ 300 บาท จำนวน 24 วัน รวมเป็นเงิน 7,200 บาท ซึ่งเป็นการให้กู้ยืมเงินคิดอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด ร้อยละ 20 ต่อเดือน/ร้อยละ 240 /ปี เมื่อมาทวงหนี้ใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายผู้บาดเจ็บ จึงได้ก่อเหตุและหลบหนีไปเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้กับผู้ต้องหาทั้งสองคน ทราบว่า ” ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ และประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้กำกับโดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ร่วมกันทวงหนี้โดยใช้ความรุนแรงและใช้กำลังประทุษร้าย ร่วมกันบุกรุกในเคหสถาน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และพกพาอาวุธมีดติดตัวไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ” จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน ส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองเลย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป