ข่าวอาชญากรรม

นครพนม สืบเมืองนครพนม จับเซียนพระเครื่องนครพนม ตระเวนลักพระบูชาบริเวณศาลหน้าสถานประกอบการ

วันที่ 13 พ.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานกรณีเหตุเกี่ยวกับการลักพระบูชา เหตุเกิดเมื่อภายใน 1 อาทิตย์ มีคนร้ายไม่ทราบชื่อ เป็นชาย ขับขี่รถยนต์เก๋ง สภาพเก่า ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับมาลักพระเก่า พระบูชา พระพรหม พระต่าง ๆ ที่เป็นพระบูชาแถวศาลหน้าโรงแรม สถานที่ราชการ ได้ก่อเหตุลักประมาณ 5 ที่ คือ หน้านครพนมแทรกเตอร์ ตลาดสุนทรี เทศบาลเมืองนครพนม สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬา จ.นครพนม โรงแรมภูเขาทอง เมื่อตระเวนลักแล้ว ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับพนักงานสอบสวน

พ.ต.อ.ภาคภูมิ เดชะเรืองศิลป์ ผกก.สภ.เมืองนครพนม พ.ต.ท.จิรุฎฐ์ พิมพา สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครพนม จึงสั่งการให้ ร.ต.อ.ศักดิ์ดา ต้นจันทน์ รอง สว.สอบสวน หัวหน้าชุดสืบสวน ตำรวจชุดจับกุม สภ.เมืองนครพนม ทำการสืบสวนขยายผลโดยเร็ว เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่ประชาชนให้ความสนใจเพราะมีคุณค่าทางจิตใจของประชาชน จึงได้ทำการตรวจกล้องวงจรปิด และเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี สืบสวนขยายผลจึงได้ทราบว่า ผู้ที่ก่อเหตุในครั้งนี้ คือฉายาในวงการพระเครื่องนครพนม คือ อู๋ นครพนม หรือ นายกฤษฎา มหาสิทธิราช อายุ 34 ปี ที่อยู่ ต.โพธิ์ตาก อ.เมือง จ.นครพนม เป็นรองประธานสมาคมพระเครื่องนครพนม เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงร่วมกันวางแผนในการจับกุมตัว จึงทราบว่า นายอู๋ ทำมาหากินอยู่บริเวณองค์พระธาตุพนม มีตลาดพระเครื่องที่ อ.ธาตุพนม เจ้าหน้าที่ฯ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่า นายอู๋ ปรากฏตัว และมีการขายพระบูชาที่มีลักษณะคล้าย ๆ ที่คนร้ายได้ก่อเหตุลักไป เจ้าหน้าที่ฯ จึงลงไปที่เกิดเหตุและแอบซุ่มอยู่บริเวณดังกล่าว เมื่อเช้ามืดของวันที่ 13 พ.ค.66 ร.ต.อ.ศักดิ์ดา ต้นจันทน์ หัวหน้าชุดสืบสวน สภ.เมืองนครพนม รู้จักมักคุ้นกับนายอู๋ เป็นอย่างดี เพราะตนก็ชอบพระเครื่องเหมือนกัน เห็นนายอู๋ จึงแสดงตัวเพื่อทำการจับกุม เอาหลักฐานให้นายอู๋ ดู และได้รับสารภาพว่า ลงมือก่อเหตุลักทรัพย์ เป็นพระเครื่อง พระบูชาที่กล่าวมาในข้างต้นไปทั้งหมด จริง โดยทำการก่อเหตุโดยลำพัง เจ้าหน้าที่ฯ จึงทำการตรวจยึดพระเครื่องที่นายอู๋ขายไป ทั้งหมดจำนวน 6 องค์ จาก 5 สถานที่ นำตัวผู้ต้องหาพร้อมรถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น อัลติส สี บอร์นทอง ทะเบียน กฉ 1230 นครพนม เป็นรถคันที่ก่อเหตุ มาที่งานสืบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อบันทึกการจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ พร้อมของกลางให้ ร.ต.อ.มงคล ยลวิลาส พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม ดำเนินการคดีตามกฎหมายต่อไป

นายกฤษฎาฯ ผู้ต้องหา กล่าวว่า เมื่อลักพระตามสถานที่ต่างๆ แล้ว จะนำไปขายในตลาดพระเครื่องแล้วนำเงินที่ได้ไปใช้หนี้ส่วนตัว และนำไปแลกพระในกลุ่มพระเครื่องด้วยกัน และนำพระเครื่องที่แลกไปจำหน่ายต่อไป

นางอภิญญา ศรีวรขาน ผู้จัดการ สุนทรีปาร์ค กล่าวว่า พระบูชาที่ตั้งอยู่ศาลบริเวณหน้า สุนทรีปาร์ค ได้ทำการบูชาเพื่อเป็นศิริมงคลทุกวัน และเมื่อวันที่ 9 พ.ค. พระบูชาได้หายไปจากศาล จึงไปแจ้งความที่ สภ.เมืองนครพนม ในวันนี้ทราบว่า ตำรวจชุดจับกุมผู้ต้องหาและของกลางได้ จึงขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานได้รวดเร็ว ดีใจมากที่ได้พระบูชากลับคืนมา