ข่าวอาชญากรรม

มุกดาหาร จับแล้วคดีปล้นไม้พะยูงของกลางในสวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่

จับแล้วขบวนการคดีปล้นไม้ของกลางในสวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด ศาลจังหวัดมุกดาหารออกหมายจับ จำนวน 16 หมาย จับกุมตัวแล้ว 12 ราย หลบหนีหมายจับ 4 ราย ในคดีอาญา 26/2566 สถานีตำรวจภูธรหนองสูงใต

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงาน นายวิสัน กุดแถลง นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ หัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด รายงานเหตุการณ์เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2566 เวลาประมาณ 19.45 นาฬิกา ถึง เวลาประมาณ 23.00 นาฬิกา ได้มีกลุ่มบุคคลปิดบังใบหน้าพร้อมอาวุธครบมือ จำนวนประมาณ 30 คน และรถบบรทุก 6 ล้อติดเครน 1 คัน รถบรรทุก 10 ล้อ 1 คัน ได้บุกเข้ามาในพื้นที่สวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด และบังคับควบคุมตัวหัวหน้าและเจ้าหน้าที่ที่อยู่เวรยามทั้งหมด 6 คน โดยใช้อาวุธปืนข่มขู่ และได้ปล้นไม้พะยูงของกลาง จำนวน 7 ท่อน ปริมาตรประมาณ 7 ลูกบาศก์เมตร

หลังจากเกิดเหตุดังกล่าว ช่วงเช้าของวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 นายวิสัน กุดแถลง ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ และนำเงินสด 200,000 บาท ที่ได้รับจากคนร้ายมามอบให้พนักงานสอบสวน ที่สถานีตำรวจภูธรหนองสูงใต้ ตำบลหนองสูง อำเภอหนองสูง จังหวัดมุกดาหาร เลขประจำวันรับแจ้งความ 3/2566 ลงวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 และในเวลา 19.00นาฬิกา เลขคดีอาญา 26/2566 ลงวันที่ 4 พ.ค. 2566 และเลขยึดทรัพย์ 14/2566 ลงวันที่ 5พฤษภาคม 2566

ต่อมาวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สั่งการหน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) นำโดย นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าหน่วยฯ ให้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคดีดังกล่าว และวิทยุในราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จาก พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถึงผู้รับปฏิบัติ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 และ ผู้ช่วย ผู้บัญชาการตำรวจในสายงานสืบสวน ให้ตำรวจภูธรภาค 4 มอบหมาย กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค4 นำโดย พันตำรวจเอกกิตติพงษ์ จิตรคาม ผู้กำกับสืบสวน (กอง 3) ตำรวจภูธรภาค 4 ร่วมกับ ตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร นำโดย ร้อยตำรวจเอกทวีศักดิ์ สอนจันทร์ ตำรวจภูธรจังหวัดมุกดาหาร เร่งรัดสืบสวน เพื่อจับกุมตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว ศาลจังหวัดมุกดาหารออกหมายจับ จำนวน 16 หมาย
1) นายคำหลอม กาลจักร จ 80 (จับกุม) 2) นายกำจัด กุดโอภาส จ 84 (3) นายเพ็ญประภา ศรีไชย จ 85 (จับกุม) 4) น.ส.จันทร์ดา จุลแสน จ 86 (จับกุม) (5) นายเศรษฐบุตร สายโสดา จ 89 (จับกุม) (6) นายสายคำ (คนลาว) จ 93 (7) นานโอได (คนลาว) จ 94 (8) ปิง (คนจีน) จ 95 (9) นายปริญญา กนกแก้ว จ 96 (จับกุม) 10) นายดำรง กนกแก้ว จ 97 (จับกุม) (11) นายเมธาสิทธิ์ ศรีไชยวาน จ 98 (จับกุม) (12) นานบรรพต ป้องเขต จ 99 (จับกุม) (13) นายเสถียร โพธิ์ชัย จ 100 (จับกุม) (14) นายพรชัย หงษ์วิลัย จ 101 (จับกุม) (15) นายสมบูรณ์หรือเบิ้ม ศรีส่ง จ 106 (จับกุม) (16) นายวิสัน กุดแถลง จ 107 (จับกุม) จับกุมตัวแล้ว 12 ราย หลบหนีหมายจับ 4 ราย

แนวทางการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ลำดับที่ 16 เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ 1 ราย ป.อาญา มาตรา 147, 149, 157, 173 ฐานความผิด “ รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้นแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด, เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, เป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือไม่ชอบด้วยหน้าที่ เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต”
ส่วนลำดับที่ 1,2,5,6,7,8 จำนวน 6 ราย ร่วมกันให้สินบนแก่เจ้าพนักงาน ป.อาญา มาตรา 83, 86, 144, 147, 149, 157 ฐานความผิด “ร่วมกันให้ ขอให้ หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่เจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือประวิงการกระทำอันมิชอบด้วยหน้าที่ , สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย, สนับสนุนเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือไม่ชอบด้วยหน้าที่, สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต” ผู้ต้องหาอีก 9 ราย กลุ่มลูกจ้างที่ร่วมขบวนการ ป.อาญา มาตรา 86, 147, 149, 157
กล้องวงจรปิดร้านค้าแห่งหนึ่งในอำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด บันทึกภาพเมื่อราว 6 โมงครึ่งของเย็นวันที่ 30 เมษายน ขณะรถฟอร์จูนเนอร์ของนายทุนค้าไม้ วิ่งเข้าประตูวัด จากนั้นก็มีรถกระบะอีก 1 คัน และรถบรรทุกคลุมมิดชิดอีก 1 คัน วิ่งตามมาในระยะห่างไม่ถึง 5 นาที

จากนั้น กล้องวงจรปิดด้านหลังสำนักงานสวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ ก็บันทึกภาพชายกลุ่มหนึ่ง ยืนสำรวจกองไม้ข้างรถเฮียบ สลับกับการยืนสนทนากันของคนกลุ่มนี้ จากนั้นก็เริ่มลำเลียงไม้พะยูงที่กองอยู่โดยรถเฮียบ หรือเครน เพื่อขึ้นรถบรรทุก คนกลุ่มนี้ปิดบังใบหน้ามิดชิด เช้าวันที่ 1พฤษภาคม 2566 นายวิสัน กุดแถลง หน้าสวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ. หนองสูงใต้ ว่าเขาถูกคนร้ายบุกปล้นไม้ของกลาง ที่เก็บอยู่ด้านหลังหน่วย โดยอ้างอิงว่าเขาถูกจับไว้ที่อาคารหลังหนึ่ง ขณะที่ลูกน้องอีกหลายคนถูกจับไว้ในอาคารอีกหลัง จากนั้นก็อ้างว่ากลุ่มคนร้ายบังคับให้เขารับเงิน 2 แสน แลกกับไม้ที่ปล้นไม้ โดยเขามอบเงิน 2 แสนเป็นหลักฐานให้ตำรวจไว้ด้วย

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้มีพิรุธ อธิบดีกรมอุทยานฯ จึงสั่งย้ายนายวิสัน เข้ากรมฯ และสั่งชุดพญาเสือ และประสานตำรวจแห่งชาติตรวสอบจนข้อเท็จจริงปรากฎ หลักฐานที่พบต่อคือภาพวงจรปิดเห็นภาพรถของขบวนการขนไม้ขับกลับลงมาผ่านกล้องวงจรปิดจุดเดิม และจนท.อีกชุด ก็แกะรอยไปพบคนกลุ่มนี้สวมผ้าปิดบังใบหน้าเดินไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ที่อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด เจ้าของบัญชี ชื่อคำหลอม และเศรษฐบุตร มีการกดเงินออกรวม 4 แสน 7 หมื่นบาท
ขณะที่การแกะรอยรถที่ใช้ก่อเหตุพบ เจ้าหน้าที่ทราบตัวเจ้าของรถทั้งรถฟอร์จูนเนอร์ รถกระบะ และรถบรรทุกไม้ โดยผลการแกะรอยอย่างละเอียดก็พบว่าคนร้ายน่าจะมีราว 15 คน โดยตำรวจออกติดตามตัวและจับได้แล้ว 11 คน ส่วนใหญ่เป็นคนลำเลียงไม้ขึ้นรถ
ส่วนอีก 4 คน ที่หลบหนีไปได้คือนายหยวน นายทุนชาวจีน / นายสายคำ นายทุนชาวลาว / นายโอได ชาวลาวที่ทำหน้าที่เป็นล่าม และนายกำจัด ซึ่งมีบ้านอยู่หน้าสวนพฤกษศาสตร์และเป็นนายหน้าหาซื้อไม้
หลังจากถูกจับคนงานบางส่วนซัดทอดว่า ในคืนวันนี้กล่าว หัวหน้าสวนพฤกษศาตร์ ทำหน้าที่คอยชี้ให้คนงานรู้ว่าจะขนไม้ท่อนไหนขึ้นรถบ้าง เหมือนกับว่าเป็นคนขายไม้เองด้วยซ้ำ ไม่เพียงเท่านั้น ยังซัดทอดว่า ช่วงที่ลงมากดเงินจากตู้เอทีเอ็มนั้น มีหัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์นั่งรอ อยุ่ในรถเพื่อรอรับเงินด้วย เบาะแสจากข้อผู้ต้องหาทำให้เจ้าหน้าที่ไล่ติดตามข้อมุลพบว่า ไม้พะยูงชุดนี้ถูกตัดจากสสวนพฤกษศาสตร์ ตั้งแต่ 13 เมษายน หรือวันสงกรานต์

จากนั้นก็มีคนลำเลียงไม้ออก แต่มีชาวบ้านเห็นก่อนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ ปรากฎว่ากรณีนี้จับคนร้ายไม่ได้ แต่ไม้ของกลางถูกย้ายมาเก็บที่หน่วย ซึ่งอยู่ในท้องที่ อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร ก่อนจะถูกปล้น // เบาะแสของเจ้าหน้าที่ยังระบุว่านายทุนตกลงซื้อไม้พะยูง 1.5 ล้านบาท จากจนท.รายหนึ่ง โดยเจ้าหน้าที่คนนี้ระบุว่าจะขอชี้พิกัดให้อย่างเดียวไม่ขอตัดให้ แต่ให้ขบวนการเข้ามาตัดเอง โดยไม่มีใครขวางและให้ทำเสมือนว่าถูกลักลอบตัด //แต่ไม้ที่ตัดเมื่อ 13 เมษายน เกิดผิดแผนเพราะมีชาวบ้านเห็นก่อน กลุ่มตัดไม้จึงทิ้งไม้หลบหนีไป
เมื่อผิดแผนไม้เหล่านี้จึงต้องตกเป็นของกลาง ในคดีและนำไปเก็บในศูนย์ดังกล่าว กระทั่งเกิดการปล้นไม้ชุดเดิมอีก ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายระบุว่าชุดที่ไม่มาปล้น ก็คือชุดที่ตกลงซื้อกั้นตั้งแต่กกลางเดือนเมษายนแต่เอาไม้ไปไม่ได้
ข้อมูลนี้สอดคล้องกับ ที่อธิบดีกรมอุทยานฯระบุว่า ขณะนี้ทุนต่างชาติรุกหนัก ยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อเบาะแสไม้แล้วว่าจ้างคนไปตัดเพื่อส่งออกไปนอกประเทศ

นาย อรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานฯ เปิดเผยว่า ขบวนการข้ามชาติ เป็นอาชญากรรมข้ามชาติ และมีการนำเงินสดมาลงทุน ในลักษณะพร้อมที่จะจ่ายเท่าไหร่ก็ได้ และมีออเดอร์สูงมาก พร้อมที่จะเสี่ยงในการสูญเสียเงิน เพราะสามารถขายได้ในมูลค่าได้ 5-10 เท่า เป็นราคาที่ซื้อขายในปัจจุบัน ซึ่งแพงมากเป็นเรื่องสำคัญที่เป็นตัวกระตุ้นต้นไม้ที่ถูกตัดในป่า ในช่วงปีที่ผ่านมาสูงมาก เพราะว่าทุกคนก็อยากได้ตังค์ มีเงินมาลงที่หมู่บ้าน หมู่บ้านก็ไปหาไม้มา บางทีเราถูกขโมยข้อมูล เวลาเจ้าหน้าที่ลาดตระเวน เราจะรู้ต้นไม้มีค่าเหล่านี้อยู่ตรงไหนบ้าน เขาก็จะมาสืบค้นเรื่องขโมยข้อมูลเหล่านี้ และเอาจุดพิกัดเอาไปขายกัน บางทีบอกจุดต้นไม้อยู่ที่ไหนก็ได้แล้ว 50,000 บาท เพราะมีมูลค่าสูงมาก ทำอย่างไรให้หยุดขบวนการเหล่านี้ได้ ตอนนี้ทำตามลำพังไม่พอ ต้องอาศัย สตช. กระทรวงต่างประเทศ ปปง. เพาะต้องการที่จะหยุดกลุ่มประเทศที่ 2 ที่ 3 หรือประเทศปลายทาง จะมีขบวนการเหล่านี้มา จะทำอย่างไรในเรื่องการสกัดกั้นการเข้าประเทศ ฉะนั้นการที่จะเข้ามาเชื่อมโยงกันทั้งหมด ที่ผ่านมาไม่ว่าคดีปล้นไม้ที่ดงมอี่ที่มุกดาหาร สตช.ทั้งในพื้นที่และส่วนกลาง ช่วยกันจนสามารถจับกุม รวมไปถึงบ้านของผมเอาด้วย ต้องปัดกวาดให้สะอาด และถูกหมายจับไปด้วยเป็นข้าราชการตอนนี้ก็ติดคุกอยู่ รวมไปถึงพื้นที่อุบลราชธานี จนสามารถจับกุมได้ 8 คน เป็นคนลาว 2 คน เป็นคนไทย 6 คน ซึ่งเป็นพื้นที่ของกรมอุทยานฯ ถือว่าเป็นการทำงานที่เห็นผลมากและก็ทำให้ขบวนการเหล่านี้กลัง แต่เราก็ไม่พยุดแค่นี้ เราต้องหยุดขบวนการให้ได้ และจะไม่ให้คนเหล่านี้เข้ามาในประเทศไทย ตอนนี้ต้องมาคอยระวังเรื่องไม้ ต้องมาแก้ไขที่ปลายเหตุ ต้องกราบขอบพระคุณท่าน รอง ผบ.ตร. เป็นอย่างสูง และจะได้มอบแฟ้มข้อมูลชาวต่างชาติให้กับท่าน รอง ผบ.ตร…..

พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ได้ร่วมกันกับตำรวจ๓ธรอุดรธานี สืบสวนสอบสวนเมืองอุดร และตำรวจภูธรภาค 4 ในเรื่องนี้จากการรับข้อมมูลมาจากกรมอุทยานแห่งชาติ และได้ขยายผลสืบสวน จนกระทั่งสืบทราบว่า เป็นขบวนการเหมือนเดิม เป็นขบวนการของคนจีน ที่เอาเงินเข้ามาและมีนายหน้าอยู่ในฝั่งไทย และร่วมมือกับหัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ สังกัดกรมอุทยานฯ จากการสืบสวนสอบสวนขยายผลได้ทำการออกหมายจับต่อศาลทั้งหมด 11 คน จากทางฝั่งไทย จากการทำผิกกฏหมายต่าง ๆ อีกส่วนหนึ่งเป็นขบวนการคนจีน เราทราบตัวกำลังออกหมายจับต่อศาลแล้วทั้งหมด 4 คน มีทั้งคนจีน คนลาว ทันทีที่ก่อเหตุได้เดินทางหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว

ส่วนคนลาวที่มีชื่ออยู่ที่เป็นนายทุน สัญชาติลาว จะประสานไปทางฝั่งลาว คือ ผบ.ตร.ลาว ให้ช่วยนำตัวในประเทศลาว และไม้พะยูงต้องการมากในฝั่งประเทศจีน เพราะว่าคนจีนมีรสนิยมในเรื่องของไม้พะยูงสูง เพราะว่าในบ้านต้องมีไม้พะยูง มีเฟอร์นิเจอร์ มีเงินเป็นพันล้านที่มากว้านซื้อไม้พะยูงในประเทศไทย เพราะฉะนั้นถ้าคนไทยเราไม่หวงแหนต่อไปม้พะยูงจะหมดไป คนไท