ข่าวอาชญากรรม

บุรีรัมย์ คนชราผู้พิการแทบช็อกมีหนังสือทวงหนี้จากสหกรณ์การเกษตรหลักล้านทั้งที่ไม่เคยกู้คนตายยังมีชื่อ

คนชรา ผู้พิการ และชาวบ้านหลายรายใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ แทบช็อกหลังได้รับหนังทวงหนี้จากสหกรณ์การเกษตรหลักหมื่นถึงหลักล้าน ทั้งที่ไม่ได้เป็นสมาชิกและไม่เคยกู้ งงหนักบางคนตายตั้งแต่ปี 47 แต่กลับมีชื่อกู้เงินปี 49 แต่พอนำหนังสือไปสอบถามที่สหกรณ์ฯกลับถูกผู้บริหารแสดงอาการไม่พอใจและต่อว่า ก่อนจะชี้แจงว่าอาจเกิดความผิดพลาดตั้งแต่คณะกรรมการชุดก่อนพร้อมจะตรวจสอบแก้ไข

วันที่ 23 ส.ค. 2566 คนชรา ผู้พิการ และชาวบ้านบ้านหนองงูเหลือม ต.นางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์หลายคนที่ได้รับหนังสือทวงหนี้จากสหกรณ์การเกษตรนางรอง จำกัด ตั้งแต่ยอดหลักหมื่นถึงหลักล้านบาท ได้นำหนังสือทวงหนี้ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบ เพราะยืนยันว่าไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตร และไม่เคยกู้เงินใดๆ จากสหกรณ์เลย แต่ทำไมถึงมีหนังสือมาทวงหนี้ทำให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และชาวบ้านที่ได้รับหนังสือเกิดความกังวลใจบางคนแทบช็อก เพราะมียอดเงินกู้พร้อมดอกเบี้ยหลักล้านบาท บางคนเป็นทั้งคนค้ำและคนกู้ด้วย และที่สร้างความแปลกใจหนักไปกว่านั้น คือมีชื่อของชาวบ้านบางคนที่เสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ปี 2547 แต่กลับมีชื่อกู้เงินเมื่อปี 2549 จึงอยากให้มีการตรวจสอบและช่วยเหลือด้วย เพราะในหนังสือทวงหนี้ระบุว่าหากไม่ชำระตามกำหนดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

สอบถาม น.ส.ศรีสุวรรณ สุขรินทร์ อายุ 44 ปี ผู้พิการแขนและขาตั้งแต่กำเนิด บอกว่า ตนได้รับหนังสือทวงหนี้จากสหกรณ์การเกษตรนางรอง 2 ฉบับ โดยในหนังสือสัญญาระบุยอดเงินที่กู้ฉบับแรกปี 2549 จำนวนเงินต้น 390,000 บาท รวมดอกเบี้ยจะเป็นเงิน 772,272 บาท และหนังสือสัญญาฉบับที่ 2 ปี 2550 เงินต้น 35,000 บาท รวมดอกเบี้ยเป็นเงิน 680,101 บาท รวมเงินต้นและดอกเบี้ย 118,481 บาท โดยมียอดทวงมาทั้งหมด 17 ปี รวมยอดที่ต้องชำระทั้งสิ้นประมาณ 1,312,949 บาท โดยในหนังสือระบุให้ชำระหนี้ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2566 หากเพิกเฉยจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ก็ตกใจและเครียดมาก เป็นไปไม่ได้ที่จะไปกู้หรือค้ำ เพราะตนเองไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรนางรอง และไม่เคยกู้หรือค้ำประกันใดๆ กับทางสหกรณ์เลย เชื่อว่าน่าจะเกิดความผิดพลาดแน่นอน จึงอยากให้เร่งตรวจสอบและแก้ไขด้วย

ด้านนางทิวารดี กลิ่นพยอม อายุ 72 ปี ผู้สูงอายุบ้านหนองงูเหลือมอีกรายที่ได้รับหนังสือทวงหนี้จากสหกรณ์ เล่าว่า เพิ่งได้รับหนังสือทวงหนี้จากสหกรณ์การเกษตรนางรอง วันที่ 18 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา 2 ฉบับ ฉบับแรกเป็นสัญญากู้ยืม เมื่อปี 2549 ยอดกู้ 40,000 บาท และอีก 1 ฉบับ เป็นสัญญากู้เงินปี 2550 มียอดกู้ 35,000 บาท ทั้งสองยอดรวมกันเป็นเงิน 75,000 บาท ก็ตกใจกินไม่ได้นอนไม่หลับ ยืนยันว่าไม่ได้เป็นสมาชิกสหกรณ์ฯ และไม่เคยกู้ จึงอยากให้มีการตรวจสอบช่วยเหลือด้วย

ขณะที่นางรวม บุญพิรุณ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหนองงูเหลือม บอกว่า เท่าที่ทราบเบื้องต้นมีชาวบ้านได้รับหนังสือทวงหนี้จากสหกรณ์การเกษตรนางรอง 4 ราย ซึ่งจากการสอบถามทุกคนก็ยืนยันว่าไม่เคยกู้หรือค้ำประกันเงินกู้ของสหกรณ์การเกษตรเลย ถึงขั้นบอกว่าไม่เคยรู้จักสหกรณ์การเกษตรนางรองด้วยซ้ำว่าตั้งอยู่ตรงไหน และที่น่าแปลกคือชาวบ้านบางคนเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2547 แต่กลับมาชื่อเป็นคนกู้และค้ำปี 2549 ก็เป็นเรื่องที่ผิดปกติ จึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบและช่วยเหลือชาวบ้านด้วย

จากนั้นชาวบ้านก็ได้นำหนังสือทวงหนี้ที่ได้รับ ไปสอบถามที่สหกรณ์การเกษตรนางรอง จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ในตัวอำเภอนางรอง แต่กลับมีผู้บริหารสหกรณ์คนหนึ่งแสดงอาการไม่พอใจพร้อมต่อว่าชาวบ้านและสื่อที่ไปติดตามทำข่าว ชาวบ้านต่างก็ตกใจและพากันเดินออกจากสหกรณ์ ก่อนที่จะมีผู้บริหารคนอื่น ออกมาขอโทษพร้อมชี้แจงว่าอาจจะเกิดจากความผิดพลาดของคณะกรรมการชุดเก่า ซึ่งทางสหกรณ์จะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และหากเป็นความผิดพลาดจริง ก็จะดำเนินการแก้ไขด้วยการออกหนังสือยืนยันไม่ได้เป็นลูกหนี้และไม่ต้องชำระหนี้ใดๆ