ข่าวเศรษฐกิจ

นครพนม ตัดต้นยางทิ้งปลูกองุ่นทดแทนรายได้ดีกว่ายางพารา

วันที่ 21 เม.ย. 2567 ที่ไร่องุ่น”แอนนา” ม.8 บ้านโพนทอง อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ได้พบกับ คุณวรนุช พุทธิจักร หรือแอน อายุ 30 ปี เจ้าของไร่ เล่าให้ฟังว่า ปกติทำงานอยู่ อบต.นางัว อ.บ้านแพง ขอเล่าย้อนไปเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ครอบครัวของตนมีอาชีพทำนา พร้อมปลูกยางพารา บนเนื้อที่ 21 ไร่ ช่วงหลายปีที่ผ่าน เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และเกิดโรคระบาดโควิด-19 ทำให้เศรษฐกิจย่ำแย่ซ้ำเติมเข้าอึก ยาพาราราคา 4-5 กก.ต่อ 100 บาท ตนจึงปรึกษาครอบครัวว่า จะทดลองปลูกองุ่นโดยศึกษาจากยูทูป และสื่อโซเชียล พันธ์องุ่น พร้อมสอบถามเพื่อนๆ ที่ทำสวนองุ่น จึงตัดสินใจ ตัดต้นยาพารางทิ้งประมาณ 2 ไร่ ทดลองปลูก ลงทุนประมาณแสนกว่าบาท

เมื่อวันที่ 15 ม.ค.65 เริ่มปลูก 3 สายพันธ์ มีพันธุ์ เออร์ลี่ อดอร์ล่าลูกสีดำอมม่วง ไรัเมล็ด ลักษณะลูกใหญ่ ปลูกง่ายทนร้อน ที่ได้ปลูก 5 ต้น โอปอดำไร้เมล็ดเป็นพันธุ์ที่ปลูกได้ดีในทุกระดับของพื้นที่เป็นพันธุ์ที่เจริญเติบโตเร็วให้ผลผลิตสูงทุกฤดูที่ตัดแต่งคุณภาพดีไม่มีเมล็ดผลทรงกลมสีดำ ปลูกประมาณ 30 ต้น และพันธุ์ไซมัสคาสหรือเรียกว่า Shine Muscat เป็นสายพันธุ์ขององุ่นที่มีความเป็นเอกลักษณ์เนื่องจากมีลักษณะเปลือกนุ่มและเม็ดองุ่นเป็นสีเขียวอมเหลืองสวยงามความเป็นเอกลักษณ์ทำให้องุ่นไซมัสคาสเป็นที่นิยมในการบริโภคเป็นผลไม้สดหรือนำมาใช้ในการปรุงเครื่องดื่มและขนมหวานต่างๆ ปลูก 12 ต้น ผลผลิตปีแรก เก็บได้ไม่เยอะ พอมาปีนี้ผลผลิตดีขึ้นมาก จึงมีความรู้สึกว่ามาถูกทางแล้ว


ตนจึงได้ปรึกษากับคุณพ่อ คือนายพงษ์สิทธิ์ ควรขยายพื้นที่ปลูกโดยตัดสินใจขายต้นยางพารา ทั้ง 2 ข้างไร่องุ่นเดิม คาดจะลงมือปลูกเพิ่มภายในปีนี้ สำหรับผลผลิตปีนี้ อย่างอวุ่นพันธุ์ แบลค โอ-ปอ ดำไร่เมล็ด หน้าสวนขายอยู่ที่ กก.ละ 200 บาท ถ้าเป็น ไซมัสคาส ตก กก.ละ 400 บาท ทุกวันจะมีผู้ที่สนใจและรู้ข่าวก็มาชมและมาศึกษาดูงานเป็นแหล่งเรียนรู้ซึ่งทางไร่ของเรายังไม่คิดค่าบริการ