ข่าวการศึกษา

“น้องโวลต์”ส่งมอบเงิน 1.2 ล้านบาทให้กับทางจังหวัดกาฬสินธุ์ คืนความดีสู่สังคม

คณะกรรมการที่ปรึกษาและกลั่นกรองการใช้ทุนการศึกษานางสาวณัฐวดี เหล่าบุบผา อายุ 18 ปี ศิษย์เก่าโรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ ที่สอบติดแพทย์มมส.แจงแผนการบริหารจัดสรรเงินบริจาค โดยมีมติให้ใช้เงินเพื่อการศึกษา 1.7 ล้านบาท และเพื่อเป็นทุนศึกษาต่อมาในอนาคต 8 แสนบาทตามแผนค่าใช้จ่าย ขณะที่ “น้องโวลต์”ส่งมอบเงิน 1.2 ล้านบาทให้กับทางจังหวัด คืนความดีสู่สังคม เข้ากองทุนช่วยเหลือรุ่นน้องเรียนดีแต่ยากจนต่อไป

                จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวและโลกออนไลน์เผยแพร่เรื่องราวของนางสาวณัฐวดี เหล่าบุบผา หรือน้องโวลต์ อายุ 18 ปี ศิษย์เก่านักเรียนโรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ ชาว ต.โพนทอง อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ที่สอบติดคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม แต่ฐานะทางบ้านยากจน พ่อปลูกพืชผักขาย โดยมีการเปิดรับบริจาค กระทั่งนายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปตรวจสอบ พบมีผู้ใจบุญบริจาครวมจำนวนเงินกว่า 3.7 ล้านบาท และได้ปิดรับบริจาคไปแล้ว เนื่องจากเพียงพอสำหรับการเรียนแพทย์แล้วนั้น แต่ในโลกออน์ไลน์มีการจับผิดภาพน้องโวลต์ที่มีการใช้ของแพง กระทั่งมีข้อความฮิต “จนทิพย์” ก่อนที่น้องโวลต์จะออกมาชี้แจงว่าสิ่งของเครื่องใช้ที่เห็นทุกอย่างได้มาจากการทำงานตั้งแต่เรียนม.3เก็บเงินซื้อเอง และไม่ได้เป็นของแพง พร้อมยืนยันที่จะตั้งใจเรียน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเมือง จ.กาฬสินธุ์ ดร.เทอดเกียรติ ขันธ์พิมูล ผู้อำนวยการโรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาและกลั่นกรองการใช้ทุนการศึกษา พร้อมด้วยคณะกรรมการจากภาคส่วนต่างๆ และ นางสาวณัฐวดี เหล่าบุบผา หรือน้องโวลต์ และนางพรหมจันทร์ เหล่าบุบผา มารดา ร่วมประชุม โดยใช้เวลาในการประชุมประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อสรุปการใช้จ่ายเงินที่ได้รับจากการบริจาค

หลังจากที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่วมกัน นายสมเจตน์ เต็งมงคล นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วย ดร.เทอดเกียรติ ขันธ์พิมูล ผู้อำนวยการโรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ น้องโวลต์ รวมทั้งคณะกรรมการ ได้ร่วมกันลงนามและเป็นสักขีพยาน ในการนำเงินที่ได้จากการบริจาคของผู้มีจิตศรัทธา ที่ร่วมกันโอนเงินเข้าบัญชีน้องโวลต์จำนวน 3.7 ล้านบาท เพื่อใช้จ่ายเป็นทุนการศึกษา พร้อมชี้แจงรายละเอียดต่างๆ และเตรียมส่งมอบเงิน 1.2 ล้านบาทให้กับทางจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้ากองทุนช่วยเหลือรุ่นน้องเรียนดีแต่ยากจน ท่ามกลางบรรยากาศที่ปลื้มปิติของทุกคน

นายเทอดเกียรติ ขันธ์พิมูล กล่าวว่า ตามที่น้องโวลต์สอบติดนักเรียนแพทย์ อาจารย์ที่ปรึกษาน้องโวลต์ ได้แนะนำให้เปิดบัญชีรับบริจาค เนื่องจากทุนที่ใช้ในการเรียนแพทย์สูงมากถึงปีการศึกษาละประมาณ 8 หมื่นบาท ขณะที่ฐานะทางบ้านของยากจน หลังจากเปิดบัญชีและมีสื่อโซเชียลนำเสนอข่าวออกไป ทำให้มีเงินบริจาคเข้ามาเป็นจำนวนมากถึง 3.7 ล้านบาท ขณะเดียวก็เกิดมีกระแสดราม่า  ส่งผลกระทบต่อจิตใจน้องโวลต์และคนในครอบครัว ในฐานะเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนเดิม จึงได้ร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมหาทางออก โดยจัดตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาและกลั่นกรองการใช้ทุนการศึกษา และมีการประชุมเพื่อลงมติเห็นชอบกันในวันนี้

ด้านนายสมเจตน์ เต็งมงคล กล่าวว่า หลังจากมีการแต่งตั้ง โดยมีนายอำเภอลงนามแต่งตั้งแล้ว คณะกรรมการทุกฝ่ายที่เป็นบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ทั้งการศึกษา สาธารณสุข ปกครอง ก็ได้ร่วมกันประชุมปรึกษาหารือร่วมกับน้องโวลต์และนางพรหมจันทร์ มารดา ก่อนที่จะมีมติร่วมกันคือการจัดสรรจำนวนเงิน 3.7 ล้านบาทที่ได้จากการบริจาค เป็นดังนี้ 1. ค่าใช้จ่ายในการศึกษาตลอดหลักสูตรการเรียน 6 ปี จำนวน 1.7 ล้านบาท, 2. ค่าใช้จ่ายในการศึกษาระดับที่สูงขึ้น และค่าใช้จ่ายอันอาจเกิดขึ้นระหว่างการศึกษา จำนวน  8 แสนบาท ซึ่งเพียงพอแล้วกับการเรียนแล้ว และ 3.มอบให้กับทางจังหวัด เพื่อเป็นทุนการศึกษาให้กับผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ จำนวน 1.2 ล้านบาท ตามความตั้งใจของน้องโวลต์ ทั้งนี้หลังจากคณะกรรมการมีมติเห็นพ้อง จึงได้ร่วมลงนามไว้เป็นหลักฐาน

ขณะที่น้องโวลต์ นางสาวณัฐวดี เหล่าบุบผา กล่าวว่า ความตั้งใจเดิมของตนเดิมที่เปิดบัญชีรับบริจาคนั้น เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการศึกษาตลอดระยะเวลา 6 ปีสูงมาก หลังจากได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ที่ปรึกษาจึงลองเปิดบัญชีรับบริจาคดังกล่าว ต้องกราบขอบพระคุณทุกท่าน ที่ให้ความเมตตา บริจาคเงินเข้ามาที่บัญชีตน จนได้จำนวนเกินความคาดหมายดังกล่าว สำหรับตน ยังยืนยันที่จะใช้เงินเพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ได้คาดหวังว่าจะใช้ส่วนตัวด้านอื่นๆ หรือนำไปปรับปรุงที่พักอาศัยให้กับพ่อแม่ประการใดเลย

“ก็ต้องขอกราบขอบพระคุณอีกครั้ง สำหรับเงินบริจาคทุกบาททุกสตางค์ และขอกราบของพระคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอเมือง ตลอดจนคณะกรรมการทุกท่าน อาจารย์ที่ปรึกษา ที่มอบสิ่งดีๆและให้โอกาสดีๆกับตน ซึ่งล้วนเป็นพลังใจให้มุ่งมั่น ตั้งใจศึกษาให้จบ และจะกลับมาปฏิบัติหน้าที่เป็นแพทย์หญิง รักษาสุขภาพพี่น้องชาวกาฬสินธุ์ในอนาคต ดังที่ตั้งความหวังเอาไว้ ซึ่งเงินนั้นก็เพียงพอแล้ว จึงอยากมอบเงินจำนวนนี้ให้กับทางจังหวัด เพื่อเข้ากองทุนช่วยเหลือรุ่นน้องเรียนดีแต่ยากจนต่อไป ” น้องโวลต์กล่าวในที่สุด