วันที่ 8 พ.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดขอนแก่นโดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น เครือข่ายวัฒนธรรม สถาบันการศึกษา และประชาชน พร้อมรำบวงสรวง 10 สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองขอนแก่น ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 เนื่องในโอกาสครบรอบ 226 ปี การก่อตั้งเมืองขอนแก่นและเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเริ่มงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว งานกาชาดจังหวัดขอนแก่นและงานขอนแก่นซอพต์พาวเวอร์ประจำปี 2566 ทั้งนี้ร่วมรำไปพร้อมกับ แอน อรดี และบอย ศิริชัย ขอเชิญชวนพี่น้องคนไทย มาเที่ยวชมงานเทศกาลไหมนานาชาติ ประเพณีผูกเสี่ยว งานกาชาดจังหวัดขอนแก่น และงานขอนแก่นซอฟต์พาวเวอร์ ประจำปี 2562 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2566
นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธุ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น เปิดเผยว่า การรำบวงสรวงเป็นกิจกรรมที่ชาวขอนแก่นพร้อมใจจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี ในทุกวันที่ 28 พ.ย. ถือเป็นงานบุญประเพณีประจำปีครั้งยิ่งใหญ่และครั้งสำคัญของคนขอนแก่น ที่จะได้ร่วมใจเป็นหนึ่งด้วยการรำบวงสรวง 10 สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองขอนเเก่น ประกอบด้วย พระพุทธอภัยมงคลสมังคี, พระพุทธพระลับ, พระธาตุขามเเก่น องค์จําลอง, เจ้าพ่อมอดินเเดง,ศาลหลักเมืองขอนแก่น, พระนครศรีบริรักษ์, เจ้าพ่อมเหศักดิ์, พระพุทธมหาจักรเเก่นนคร วัดหนองแวง พระอารามหลวง, หลวงพ่อใหญ่ วัดกลางขอนแก่น,พระพุทธรังสิโยภาสสุขพิพัฒน์ จากวัดป่าแสงอรุณ ซึ่งการรำบวงสรวงปีนี้ยังคงกำหนดท่ารำประกอบในจังหวะของ 3 เพลงหลัก และปีนี้เพิ่มขึ้นมา 2 เพลง คือเพลงสาวอีสานรอรักและฮักสาวขอนแก่น
“โดยปีนี้นโยบายของผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น(นายไกรสรกองฉลาด) อยากให้มีการเพิ่มเพลงอีกหนึ่งเพลงซึ่งเดิมทีมี 3 เพลง คือ เพลงขอนแก่นวันนี้, เพลงฟ้อนผูกเสี่ยว, เพลงดอกคูนเสียงแคน ในปีที่แล้วเพิ่ม 1 เพลงคือสาวอีสานรอรัก รวมเป็น 4 เพลงและในปีนี้จึงเพิ่มอีก 1 เพลง คือฮักสาวขอนแก่น ซึ่งมีมติคณะกรรมการทางจังหวัดขอนแก่นเห็นชอบตรงกันและต้องการให้เพลงที่มีความเกี่ยวข้องกับขอนแก่น รวมทั้งหมดเป็น 5 เพลง โดย 3 เพลงแรกจะเป็นการรำและอีก 2 เพลงหลังจะเป็นเต้นท่าฟรีสไตล์ให้มีความสนุกสนานเห็นถึงวิถีของคนขอนแก่น”
นายธีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับปีนี้มั่นใจว่าจะมีคนมารำไม่น้อยกว่าปีที่แล้วแน่นอนและเป็นที่น่าสังเกตว่าคนมารำบวงสรวงมีมากขึ้นทุกๆปี ปีที่แล้วก็มีเสียงเรียกร้องว่าระบบเสียงไปไม่ถึงมากเพียงพอจนกระทั่งหลายอำเภอที่ตั้งใจมารำบวงสรวงก็ไม่สามารถที่จะร่วมรำได้เพราะไม่ได้ยินเสียง ซึ่งปีนี้จะมีการแก้ไขปรับปรุงเพื่อให้ทุกคนที่ตั้งใจมาให้ได้รำกันทุกคนโดยสรุปแล้วคาดว่าคนจะเพิ่มมากขึ้น เพราะเห็นถึงความตื่นตัวของประชาชน และสิ่งหนึ่งคือความโชคดีที่มีการซ้อมรำมาทุกปีทุกคนจะรวมกลุ่มกันซ้อม ล่าสุดมีบางองค์กรได้มาแจ้งความประสงค์แล้วที่จะมาร่วมรำเป็นหมู่คณะ
ขณะที่เครื่องแต่งกายของนางรำและนายรำ ได้สื่อถึงอัตลักษณ์ที่สวยงามด้วยชุดผ้าไหมลายแคนแก่นคูน ซึ่งเป็นลายผ้าไหมประจำจังหวัดขอนแก่น โดย “นางรำ” สวมใส่เสื้อเหลืองดอกคูน นุ่งผ้าซิ่นมัดหมี่สีเข้ม หรือ ผ้าซิ่นลายแคนแก่นคูน พาดสไบด้วยผ้าขาวม้าหรือผ้าสไบแคนแก่นคูน เก็บผมให้เรียบร้อยพร้อมติดดอกคูน(ด้านซ้าย) และ“นายรำ” สวมใส่เสื้อเหลืองดอกคูน สวมกางเกงสีดำ คาดเอวด้วยผ้าขาวม้าหรือผ้าลายแคนแก่นคูน ทั้งนี้สามารถสวมใส่ชุดผ้าไทยประจำถิ่น ชุดประจำหมู่คณะ ชุดนักเรียน นักศึกษา เพื่อให้เกิดความสวยงามและความหลากหลาย