ภาวะฝนทิ้งช่วงยาวนาน ชาวบ้านนอกเขตชลประทานในจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับผลกระทบด้านการประกอบอาชีพ พืชสวนพืชไร่เสียหายขยายวงกว้าง ล่าสุดแปลงดอกมะลิขาดน้ำชะงักการเจริญเติบโต ไม่ออกดอก ผลผลิตตกต่ำ ทำให้เสียโอกาสสร้างรายได้ อยากได้บ่อบาดาลน้ำลึกบรรเทาภัยแล้ง
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามสภาพอากาศและการประกอบอาชีพ ของประชาชนชาว จ.กาฬสินธุ์ ในช่วงที่กำลังประสบกับปัญหาภัยแล้ง โดยเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงไม่ตกลงมา 6 เดือน กำลังได้รับความเดือดร้อนหลายตำบล โดยภัยแล้งได้ขยายวงกว้างเพิ่มมากขึ้น แหล่งน้ำทุกแห่งแห้งขอด เหลือให้เห็นแต่ก้นบ่อที่แตกระแหง พืชสวนพืชไร่ที่ปลูกไว้ไม่งอก แห้งตาย ส่วนที่ปลูกไว้ไม่เจริญเติบโต และนับวันจะแห้งเหี่ยว เพราะถูกเปลวแดดที่ร้อนระอุแผดเผา และเริ่มตายลงทุกวัน ล่าสุดแปลงดอกมะลิชะงักการเจริญเติบโต ลำต้นแคระแกร็น ออกดอกเล็ก ไม่สวย ผลผลิตตกต่ำ
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2020/05/5-7.jpg)
นายสมควร ภูคานา อายุ 67 ปี บ้านเลขที่ 300 หมู่ 2 บ้านหนองกุง ต.เขาพระนอน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นฤดูฝนแล้ว แต่ยังไม่มีฝนตกลงมา ส่งผลกระทบต่อพืชผลทุกชนิด ที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยงให้เติบโตและออกผลผลิต แต่กลับแห้งเหี่ยวและเฉาตายเพราะขาดแคลนน้ำ ในขณะที่ชาวบ้านหลายรายที่เตรียมพื้นที่ไว้ เพื่อปลูกมันสำปะหลัง ก็ไม่กล้าที่จะเสี่ยงปลูก เพราะดินแห้งแล้งมาก ไม่มีความชุ่มชื้นเลย พันธุ์มันสำปะหลังที่เตรียมไว้จึงแห้งตายหมด
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2020/05/9-4.jpg)
นายสมควร กล่าวอีกว่า ตนมีที่ทำกิน 15 ไร่ แต่เป็นพื้นที่สูง จึงปลูกมันสำปะหลัง แต่ผลผลิตไม่คุ้มทุน เนื่องจากพอฝนตกลงมาเกิดปัญหาน้ำขัง หัวมันเน่าเสียหาย เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา จึงแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน ทำนา 12 ไร่ ปลูกดอกมะลิ 3 ไร่ โดยลงทุนขุดบ่อบาดาลลึก 32 เมตร เพื่อสูบน้ำขึ้นมารดแปลงดอกมะลิ รวมทั้งพริก ถั่วฝักยาว และผักสวนครัวไว้กินในครัวเรือน ทั้งนี้ เพื่อนบ้านหลายครอบครัว เห็นตนปลูกดอกมะลิประสบความสำเร็จ ก็หันมาปลูกด้วยกันหลายคน จากนั้นจัดตั้งกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกดอกมะลิ เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนด้วย โดยมีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อถึงที่ กก.ละ.200-800 บาท
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2020/05/10-4.jpg)
นายสมควรกล่าวเพิ่มเติมว่า คุณสมบัติของดอกมะลิที่มีกลิ่นหอมละมุนชื่นใจนั้น สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง โดยทั่วไปคือร้อยพวงมาลัย ใส่ตู้เย็นดับกลิ่นคาว หรือลอยน้ำอบสรงน้ำพระและน้ำเล่นสงกรานต์ ขณะที่ทางการแพทย์แผนโบราณระบุว่า ดอกมะลิเป็นดอกไม้สมุนไพรที่สามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งส่วนของดอก ใบ และลำต้น นอกจากจะมีกลิ่นหอมแล้ว ยังสามารถเอามาสกัดทำยารักษาโรคได้ เช่น แก้ปวดหัว รักษาอาการผิวไหม้จากแดดและผื่น รักษาอาการหงุดหงิด ทำให้กระชุ่มกระชวยเหมือนเป็นยาชูกำลัง และแก้อาการอ่อนเพลียจากแดด โดยนำดอกมะลิผสมยาหอมที่มีสรรพคุณบำรุงหัวใจนั้น จะทำให้จิตใจชุ่มชื่น และแก้ลมวิงเวียนได้อีกด้วย
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2020/05/6-9.jpg)
“เมื่อประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง จึงเกิดภัยแล้ง อากาศร้อนจัดติดต่อกันหลายปี ผลผลิตดอกมะลิน้อยลง จึงได้ลดพื้นที่ปลูกดอกมะลิ โดยแบ่งปลูกมะม่วง มะพร้าวน้ำหอม เพื่อเป็นพืชทางเลือก และลดปริมาณการใช้น้ำ อย่างไรก็ตาม หากได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ โดยขุดบ่อบาดาลน้ำลึกให้ ซึ่งจะได้น้ำใช้เพียงพอ ตนและเพื่อนบ้านก็จะมีน้ำทำนา และที่เคยรวมกลุ่มปลูกดอกมะลิ ก็จะขยายพื้นที่ปลูกดอกมะลิเพิ่มขึ้น เพราะปลูกง่าย ดูแลง่าย ขายได้ตลอดปี ราคาสูง ก.ก.ละ 200-800 บาทดังกล่าว แต่ปัจจุบันราคาเพียง ก.ก.ละ 150 บาทเท่านั้น เนื่องจากมะลิดอกเล็ก กลีบดอกไม่สวย เพราะประสบภัยแล้งและถูกเปลวแดดแผดเผา” นายสมควรกล่าว
![](https://www.siengphupan.com/wp-content/uploads/2020/05/11-1.jpg)