บริษัทแทนซิลิก้า จำกัด ร่วมกับอุตสาหกรรมจังหวัดกาฬสินธุ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเวทีสาธารณะให้ความรู้เรื่องเหมืองแร่ทรายแก้วตามข้อเรียกร้องของชาวบ้านเหล่าไฮงาม เพื่อสร้างความรู้และเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชนในพื้นที่
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 11 พฤศจิกายน 2563 ที่ศาลาประชาคม บ้านเหล่าไฮงาม ม.10 ต.เหล่าไฮงาม อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ นายวศิน ศุภพิสุทธิ์ อุตสาหกรรม จ.กาฬสินธุ์ นางสาวภัทรานิษฐ์ นงนุช เจ้าของบริษัทแทนซิลิก้า จำกัด นายวรชาติ อาจสม ตัวแทนบริษัทแทนซิลิก้า จำกัด พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้นำชุมชนร่วมจัดเวทีสาธารณะให้ความรู้แก่ชุมชน เรื่อง การทำเหมืองแร่ทรายแก้ว ตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ.2560 ตามข้อเรียกร้องของชาวบ้านเหล่าไฮงาม และเพื่อสร้างความรู้และเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชนในพื้นที่
นายวรชาติ อาจสม ตัวแทนบริษัทแทนซิลิก้า จำกัด กล่าวว่า โครงการทำเหมืองแร่ทรายแก้วทางบริษัทยืนยันว่าจะรักษาสิ่งแวดล้อม ตามระเบียบ กฎหมายทางราชการทุกอย่าง โดยมีหลักการว่า ประชาชนหรือชุมชนอยู่ได้โครงการถึงจะอยู่ได้ ซึ่งประเทศไทยก็มีการทำเหมืองแร่ทรายแก้ว อยู่หลายพื้นที่ เช่นภาคตะวันออก ระยอง จันทบุรี ตราด หรือภาคใต้ ชุมพร ภูเก็ต ตรัง นครศรีธรรมราช ปัตตานี สงขลา ภาคอีสานที่จังหวัดร้อยเอ็ด หรือที่จังหวัดบึงกาฬ
นายวรชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับความสำคัญของแร่ทรายแก้วคือ ใช้ในอุตสาหกรรมแก้ว ไม่ว่าจะเป็น แก้วน้ำ ขวดน้ำ ภาชนะต่างๆ มีความสำคัญกับการดำรงชีวิตประจำวันของคนเราทุกคน โครงการเหมืองแร่ทรายแก้วของบริษัท แทนซิลิก้าเป็นเหมืองที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยมาก ไม่ก่อให้เกิดมลพิษหรือสารพิษ ไม่แย่งน้ำจากชุมชน ไม่ใช้แหล่งต้นน้ำลำธารของชาวบ้านหรือชุมชน โครงการมีมาตรการป้องกันและการตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น ฝุ่น เสียง น้ำผิวดิน น้ำใต้ดิน ซึ่งจะมีการจัดรับฟังความคิดเห็นของชาวบ้านหรือชุมชนอีกครั้งต่อไป
นายวรชาติ กล่าวอีกว่า ยืนยันว่าเราจะไม่ทำให้ท่านเดือดร้อน เพราะประชาชนอยู่ได้เราถึงอยู่ได้ และจะรักษาสิ่งแวดล้อม และทำตามระเบียบกฎหมายของทางราชการ อย่างไรก็ตามการทำโครงการมีประโยชน์ต่อชุมและชาวบ้านอย่างแน่นอน ทั้งเรื่องการจ้างงาน สร้างรายได้ พัฒนาเศรษฐกิจในระดับชุมชน มีค่าภาคหลวง กองทุนสุขภาพ กองทุนพัฒนารอบเหมือง กองทุนฟื้นฟูเหมือง และมีเงินประกันภัย ให้ชุมชนได้มั่นใจและเชื่อมั่นในโครงการ
ด้านนายเอนก วานิชสุจิต อายุ 63 ปี ชาวบ้านที่มีพื้นนาที่ติดกับการทำเหมืองแร่ กล่าวว่า เชื่อว่าการทำเหมืองแร่ทรายแก้วคงจะไม่ได้ส่งผลกระทบ เพราะเท่าที่ทราบแร่ทรายแก้วนั้นก็เหมือนดินทรายทั่วไป ไม่มีสารพิษ ไม่กระทบกับสิ่งแวดล้อม ประชาชนต้องศึกษาให้ดี ซึ่งโครงการดังกล่าวนั้นเชื่อว่าจะมีประโยชน์ต่อชุมและชาวบ้าน เพราะจะสามารถสร้างรายได้และสร้างเศรษฐกิจ สร้างความเจริญกับชุมชนได้เป็นอย่างดี