คืบหน้านักเรียนชาย ม.6 ร.ร.แห่งหนึ่งใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ที่ถูกหลอกไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประเทศเพื่อนบ้านเกือบ 2 สัปดาห์ พยามส่งข้อความถึงเพื่อนให้หาทางช่วยเหลือด้วยเพราะลำบาก กระทรวงมี จนท.สถานทูต ทางการไทยทั้งไทย-กัมพูชา ประสานให้ความช่วยเหลือ ล่าสุดออกมาอยู่ในสถานที่ปลอดภัยกับ จนท.แล้วรอทำเรื่องส่งกลับบ้าน แม่ได้ยินเสียงลูกทางโทรศัพท์น้ำตาคลอเก็บกวาดห้องนอนเสื้อผ้ารอรับลูกชายกลับบ้าน หลังจากที่น้องถูกหลอกไปไม่ได้อยู่บ้านและเรียนหนังสือเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว
ความคืบหน้ากรณีนายสมจิตร์ และนางเพชร (ขอสงวนนามสกุล) ชาวอำเภอนางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือนายนันทวัฒน์ หรือวิว อายุ 17 ปี ลูกชาย ซึ่งปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ม.6 ถูกหลอกไปทำงานให้กับขบวนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ประเทศเพื่อนบ้าน (กัมพูชา) ตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค.67 ที่ผ่านมา โดยน้องได้ส่งภาพถ่ายสภาพที่พักอาศัย พิกัดที่อยู่ และข้อมูลต่างๆ ผ่านมาทางเพื่อนเพื่อให้หาทางช่วยเหลือ แต่ก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะน้องไม่มีโทรศัพท์ของตัวเองต้องยืมจากเพื่อนคนไทยที่ถูกหลอกและพักอยู่ในห้องเดียวกัน ใช้ติดต่อสื่อสารความเคลื่อนไหวเป็นระยะ แต่ก็ต้องระมัดระวังเวลาส่งข้อความเสร็จก็จะลบทิ้งทันที เพื่อไม่ให้ถูกจับได้
หลังจากรับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นหลายภาคส่วนในไทย ก็ได้ประสานงานกับทางการกัมพูชา เพื่อตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือพาน้องกลับบ้าน (ตามทีเสนอข่าวไปแล้วนั้น)
กระทั่งล่าสุดวันนี้ (28 ส.ค.67) ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่สถานทูตไทย รวมถึงหน่วยงานรัฐหลายฝ่ายในไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกัมพูชา ก็สามารถช่วยเหลือน้องวิว ออกมาจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้เรียบร้อยแล้ว และน้องปลอดภัยสุขภาพแข็งแรงดี แต่ยังต้องถูกกักตัวไว้ในสถานที่แห่งหนึ่ง เพื่อทำเรื่องตามขั้นตอนก่อนจะส่งตัวกลับภูมิลำเนา ซึ่งก็ต้องใช้เวลาสักพัก ซึ่งขณะที่ถูกกักตัวอยู่ยังจุดที่ทางการกำหนด เจ้าหน้าที่จากทางการไทยก็เข้าไปเยี่ยมและนำสิ่งของไปมอบให้เป็นระยะ ที่สำคัญเมื่อผู้เป็นแม่ได้คุยโทรศัพท์กับลูกชาย และได้รับการยืนยันจากลูกชายว่าปลอดภัยดีกำลังอยู่ระหว่างทำเรื่องเอกสารคาดว่า 1 สัปดาห์ก็จะส่งกลับไทยทำให้แม่ถึงกับน้ำตาคลอ ทั้งยังบอกกับลูกชายว่าถ้าใครที่เขาช่วยเหลือเราก็ให้ขอบคุณทุกๆ คนด้วย ตอนนี้ทุกคนรออยู่ที่บ้าน ทั้งคุณครู เพื่อนๆ ที่ ร.ร.ต่างก็รออยู่
ทั้งนี้แม่และพ่อยังยกมือไหว้กล่าวขอบคุณสถานฑูตไทยในกัมพูชา ขอบคุณผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ นายอำเภอนางรอง ตำรวจ สภ.นางรอง และทุกคนที่มีส่วนช่วยเหลือลูกชายจนหลุดพ้นจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ถ้าไม่ได้รับการประสานงานช่วยเหลือจากหลายๆ ภาคส่วน ก็ไม่รู้ว่าน้องจะเป็นยังไงบ้าง ตอนที่รู้ว่าน้องถูกหลอกไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็กินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่ตอนนี้ก็รู้สึกคลายกังวลและดีใจที่ลูกจะได้กลับบ้าน อยากเดินทางไปรับลูกด้วยตัวเอง