
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ “ถุงตังค์ นับตังค์” ได้โพสต์ข้อความว่า #ขอสะท้อนกลับไปยังร้านขายทุเรียนร้านนึง ที่อยู่ตรงข้ามศาลเจ้า… เมื่อวานแวะซื้อทุเรียนมาแพ็คละ 150 บาท ภายนอกก็ดูดีแหละ ก็ดูสวยแหละ แต่แกะออกมามันบูด เหม็นเปรี้ยวบูดเน่าเลย ก็ได้ทำการทักแชทไปหา เขาก็ไม่อ่าน คอมเม้นไปในโพสต์ ก็ไม่ตอบ ไม่รู้ว่าไม่เห็นคอมเม้นหรือตั้งใจไม่ตอบนะคะ ล่าสุดหาโพสต์นั้นไม่เจอละ เราก็ไม่ได้อยากโพสต์ให้ร้านเสียหายหรอก แต่คุณเล่นไม่ตอบ ไม่หือไม่อืออะไรเลย เราซื้อเราก็อยากได้กินของอ่ะเนาะ แต่นี่มันบูดมันเน่า มันกินไม่ได้ ถึงมันจะราคาแค่ 150 บาท แต่มันก็เงินเนาะ ฝากไว้…ให้คิดและรับผิดชอบค่ะ ขอบคุณค่ะ พร้อมกับแชร์เรื่องราวไปยังอาหารสุรินทร์ ซึ่งมีผู้มาคอมเมนมากมายกับเรื่องทุเรียน









ด้านแม่ค้าทุเรียนได้ไลฟ์ชี้แจงด้วยคำพูดที่ดุเด็ดเผ็ดมันส์จะเป็นกระแสดรามาในโลกโซเชียลและได้มีการลบไลฟ์นั้รออกไปแล้ว
ล่าสุดวันที่ 28 สิงหาคม 2567 ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้โพสต์และผู้คอมเม้นเพื่อขอสัมภาษณ์เรื่องดังกล่าวแต่กลับได้รับการปฏิเสธไม่พร้อมให้สัมภาษณ์ ขณะที่แม่ค้าทุเรียนที่เป็นกระแสดราม่าได้ออกมาไลฟ์ปากแซ่บด่าฉ่ำ แจงทุเรียนมีหลายเกรดให้เลือก ซึ่งจะมีเกรดตั้งแต่ 60-150 บาท นั้นเป็นเกรดที่นำไปทำทุเรียนกวนหรือข้าวเหนียวทุเรียน ซึ่งถ้าอยากได้ของดีราคาต้องสูงตามไปด้วย ในราคาขีดละ 59 บาท

















จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ไปที่ร้านทุเรียนพูลเพิ่มทรัพย์ เลขที่ 113/1 ถนนหลักเมือง อ.มือง จ.สุรินทร์ ซึ่งพบว่าภายในร้านทุเรียนนั้นได้ติดป้ายราคาเกรดทุเรียนราคา 60 บาทนั้นอยู่ในตู้แช่เย็นแพ็คหนึ่ง 500 กรัม สภาพเนื้อจะเละ ๆหน่อย ส่วนมากจะนำไปทำทุเรียนกวนและข้าวเหนียวทุเรียน ส่วนเกรดราคา 150 บาทนั้น เนื้อจะนิ่มทานได้แต่รสชาดหวานและเนื้อจะนิ่ม
โดยผู้สื่อข่าวได้พบกับ น.ส.สุนิสา พูลเพิ่ม(แม่ค้าทุเรียน) เป็นผู้ไลฟ์ปากแซ่บทางเฟสบุ๊ก ยินดีพาผู้สื่อข่าวมาดูทุเนียนที่ตนขายพร้อมให้ชิมทุเรียนทุกเกรดที่ตนขายพร้อมเปิดใจเล่าว่า หลังจากที่มีกระแสเรื่องดราม่าทุเรียน ขอชี้แจงว่า ลูกค้าที่มาซื้อเนื้อทุกเรียนก็จะเอาราคาถูก และมีป้ายบอกพร้อมกับตนจะบอกลูกค้าว่าเนื้อทุเรียนมันเละ ซึ่งตนก็เป็นแม่ค้า ถ้าลูกค้ายืนยันว่าจะเอาตนก็ต้องขาย และตนยังบอกไว้ก่อนแล้วว่าถ้าซื้อไปแล้วไม่รับคืน ซึ่งลูกค้าก็ยืนยันว่าจะซื้อไป ต่อมาตนทราบว่าลูกค้าได้ไปโพสต์ลงเฟซบุ๊กและแชร์ออกไป และได้มีคนได้เข้ามาแสดงความเห็นในลักษณะต่อว่าตนจำนวนมาก ตนจึงต้องออกมาไลฟ์ชี้แจงลูกค้าออกไป
สัมภาษณ์ น.ส. สุนิสา พูลเพิ่ม (แนน)อายุ 36 ปี เจ้าของร้านทุเรียนพูลสุขเพิ่มทรัพย์ ที่เป็นดรามา เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตนขายทุเรียนมานับ 10ปี โดนกระแสดรามาเสมอ และที่ตนไลฟ์ออกไปด้วยถ้อยคำที่รุนแรง และมีกระแสดรามาว่าทุเรียนร้านตนไม่ตรงปกบ้าง หลอกขายทุเรียนบ้าง ตนอยากจะอธิบายว่า ตนนั้นรับซื้อทุเรียนมาจากสวนที่ชุมพร เดือนๆนึงตกราคาเป็นล้าน ซื้อมาโดนลูกไม่ดีบ้างเสียบ้างตนก็คืนไม่ได้สักบาท ตนจึงตนนำมาปรับเปลี่ยนขายแยกเกรด ซึ่งเป็นเกรด a b c และ d ซึ่งราคาจะแตกต่างกัน เกรด a นั้นจะราคาขายชั่งเนื้อกิโลกรัมละ 590 บาท หรือ ขีดละ 59 บาท ซึ่งถ้าทุเรียนไม่ดีหรือมีปัญหาก็เปลี่ยนคืนได้ และเกรด b จะขายในราคาแพคและ 150 บาท และเกรด c ซึ่งจะนำไปทำน้ำกะทิทุเรียน ในราคาแพคละ 100บาท น้ำหนักเกือบครึ่งกิโลกรัม และเกรด d จะขายแพคละ 50-60บาทน้ำหนักครึ่งกิโลกรัม ซึ่งจะนำไปกวนได้เท่านั้นเพราะจะมีรสเปรี้ยวด้วย ก่อนที่ตนจะขายก็จะถามและบอกลูกค้าตลอดว่าต้องการปริมาณหรือคุณภาพ เพราะซื้อไปแล้วไม่รับเปลี่ยนคืน และตนก็ติดป้ายไว้ชัดเจน แต่ลูกค้าก็ยังไม่เข้าใจ ยังคงจะดรามาใส่ตนอีก ตนก็ไม่อยากจะโต้ตอบอะไรเพราะไม่มีประโยชน์ จึงอยากฝากบอกลูกค้าทุกคนว่า ถ้าอยากกินของดีก็มีราคาสูงตามปกติ แต่ถ้าอยากได้ทุเรียนถูกก็จะขายตามสภาพ นาง สุนิสา กล่าว …