วันที่ 28 ส.ค. 2567 เวลา 18.00 น. นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมพร้อมด้วยนายเดช บำรุงหงส์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)จังหวัดนครพนม และ นายโชคดี มังคละคีรี รองนายกเทศมนตรีเมืองนครพนม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขง บริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราช ต.ในเมือง อ.เมืองนครพนม หลังจากที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้แจ้งเตือนให้จังหวัดเฝ้าระวังน้ำโขงล้นตลิ่งไปจนถึงวันที่ 1 กันยายน 2567
เนื่องจากปริมาณฝนตกหนักสะสมตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน และตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และปัจจุบันมีน้ำไหลผ่านเขื่อนไชยบุรี สปป.ลาว ในอัตรา 17,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงและลำน้ำสาขาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจจะส่งผลกระทบต่อบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำการเกษตร แนวถนน ชุมชน และผู้ประกอบการบริเวณริมน้ำโขงในช่วงวันที่ 28 สิงหาคม ถึงวันที่ 1 กันยายน 2567 โดยผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้แจ้งเตือนให้ผู้ประกอบการร้านค้าที่อยู่บริเวณอาคารใต้ลานพญาศรีสัตตนาคราช ให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดและเตรียมความพร้อมในการเก็บสิ่งของขึ้นไว้บนที่สูง พร้อมทั้งได้กำชับให้เรือท่องเที่ยวทุกลำดูแลเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษผู้โดยสารต้องสวมเสื้อชูชีพด้วย และให้เดินเรือทุกประเภทด้วยความระมัดระวัง
ในขณะที่เทศบาลเมืองนครพนม ได้ปักธงเหลืองบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง เพื่อเตือนให้ประชาชนได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำทั้งชนิดเครื่องยนต์ดีเซล และเครื่องสูบน้ำด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ขนาดท่อ 12 นิ้ว จำนวน 14 เครื่อง หากเกิดน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองนครพนมก็พร้อมสูบน้ำลงในแม่น้ำโขงทันที
นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงที่จังหวัดนครพนมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อยู่ที่ประมาณ 10.57 เมตร ระดับน้ำเพิ่มขึ้นจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาประมาณ 4 เซนติเมตร ต่ำกว่าระดับวิกฤติ 1.43 เมตร อย่างไรก็ตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมความพร้อมในการรับสถานการณ์ไว้แล้ว พร้อมทั้งได้มีหนังสือด่วนที่สุดไปยังนายอำเภอและส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้เตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะประชาชนและผู้ที่อาศัยในบริเวณพื้นที่เสี่ยงริมแม่น้ำโขงให้ทราบและเตรียมความพร้อมจากสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง ในพื้นที่ 6 อำเภอ ทั้งที่อยู่ริมแม่น้ำโขงและลำน้ำสาขา ได้แก่ อ.เมืองนครพนม อ.ท่าอุเทน อ.ธาตุพนม อ.บ้านแพง อ.เรณูนคร และ อ.ศรีสงคราม ให้ระมัดระวังในเรื่องที่อยู่อาศัย สัตว์เลี้ยง พื้นที่ทางการเกษตรด้วย โดยขอให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมกำลังพล และเครื่องมือ เครื่องจักรกล เพื่อให้สามารถในการให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้จังหวัดนครพนม ยังได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยและเขตการให้ความช่วยเหลือผุ้ประสบสาธารณภัยกรณีฉุกเฉิน อุทกภัยในพื้นที่อำเภอศรีสงคราม เป็นอำเภอแรกแล้ว จำนวน 9 ตำบล 38 หมู่บ้าน