ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ รวบตีนแมวพ่อลูกอ่อนตระเวนลักทรัพย์ตามบ้าน ร้านค้าขโมยเงินสด ถังแก๊ส เครื่องมือช่างนำไปโพสต์ขายออนไลน์ อ้างตกงานหาเงินซื้อนมให้ลูกน้อยวัยขวบเศษ เหมือนจะสำนึกผิดเขียนโน๊ตขอโทษเจ้าของร้านทิ้งไว้ แต่ประวัติเคยถูกจับคดีลักทรัพย์ เพิ่งพ้นโทษไม่นานก่อเหตุอีก
เมื่อเวลา 14.00 น. (2 ก.ย.67) พ.ต.อ.จำรัส ศิริเลี้ยง ผู้กำกับการ สภ.เมืองบุรีรัมย์, พร้อม พ.ต.ท.ชำนาญ ช่วงไกร รอง ผกก.สส.สภ.เมืองบุรีรัมย์, พ.ต.ท.สุชาติ วิชาสวัสดิ์ สว.สส.สภ.เมืองบุรีรัมย์ , ร.ต.ต.สุชาติ ณรังศรี รอง สว.สส.สภ.เมืองบุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้นำตัวนายวิทวัธ หรืออุ่น อายุ 31 ปี ชาวตำสะแก อ.สตึก ไปชี้จุดเกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ หลังถูกนำหมายศาลเข้าจับกุมฐานะตระเวนก่อเหตุงัดแงะลักทรัพย์ตามบ้าน และร้านค้าหลายแห่งในตัวเมืองบุรีรัมย์
โดยจุดแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปชี้จุดก่อเหตุ ที่ร้านขายพิซซ่าของภรรยาชาวต่างชาติ ตั้งอยู่ใกล้ตลาดทอง ในเขตเทศบาลเมือง ซึ่งจุดนี้ได้งัดขโมยเงินสดในลิ้นชักไปกว่า 1,000 บาท โดยคนร้ายบอกว่ารู้สึกผิดเลยเขียนโน๊ตใส่กระดาษทิ้งไว้ที่เคาน์เตอร์ข้อความว่า “ขอโทษที่ขโมย” จากนั้นได้นำตัวไปชี้จุดที่สองเป็นบ้านเจ้าของร้านขายวัสดุก่อสร้าง และจุดที่สามเป็นห้องเก็บเครื่องมือช่างของร้านขายวัสดุก่อสร้างภายในบริเวณเดียวกันในพื้นที่ ต.ชุมเห็ด อ.เมืองบุรีรัมย์ จุดนี้คนร้ายได้ขโมยถังแก๊ส และเครื่องมือช่างไปหลายรายการ รวมมูลค่าประมาณ 20,000 บาท ซึ่งทั้งสองจุดได้ลงมือก่อเหตุช่วงกลางดึกที่เจ้าของบ้านและเจ้าของร้านนอนหลับพักผ่อน แต่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพขณะก่อเหตุได้อย่างชัดเจน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามนายวิทวัธ ผู้ต้องหา ยอมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุงัดเข้าไปขโมยของทั้งร้านพิซซ่า และร้านวัสดุก่อสร้างจริง ซึ่งวัสดุก่อสร้างได้นำไปโพสต์ขายในออนไลน์ โดยอ้างว่าที่ก่อเหตุเพราะตกงานเมื่อก่อนทำงานเป็นลูกจ้างร้านแก๊ส แต่ถูกให้ออกและยังหางานทำไม่ได้ แต่มีลูกน้อยวัยขวบเศษไม่มีเงินจึงตัดสินใจก่อเหตุลักทรัพย์ เพื่อหาเงินไปซื้อนมให้ลูก
แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากประวัตินายวิทวัธ เคยถูกจับกุมคดีลักทรัพย์ และเพิ่งจะพ้นโทษออกมา แล้วก็มาก่อเหตุตระเวนงัดแงะขโมยของอีก
หลังจากชี้จุดก่อเหตุ ชุดจับกุมก็ได้นำตัวนายวิทวัธ ส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในเคหะสถานโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าด้วยประการใดๆโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม”