วันนี้ 10 ก.ย. 2567 เวลา 10.00 น. ที่หอประชุมถนอมจันทร์เปล่ง กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (รอง ผบช.ตชด.), พล.ต.ต.กิตติศักดิ์ ปลาทอง ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 2, พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม, ผู้แทนจาก ป.ป.ส.ภาค 4, นบ.ยส.24 และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ จังหวัดมุกดาหาร และนครพนม ได้เดินทางมาแถลงผลการปฏิบัติตาม “ยุทธการพิทักษ์ริมน้ำโขง” ระดมกวาดล้างยาเสพติดที่ลักลอบนำเข้ามาทางชายแดนฝั่งริมแม่น้ำโขง ซึ่งได้เปิดยุทธการไปตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน มีการจับกุมกว่า 188 คดี ตรวจยึดยาบ้ากว่า 13 ล้านเม็ด และของกลางอื่น ๆ เป็นจำนวนมาก
พล.ต.ท.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ กล่าวว่า ตามที่ พล.ต.ท.ยงเกียรติ มณปราณีต ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ได้เปิดยุทธการ “พิทักษ์ริมน้ำโขง” เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 โดยมอบหมายให้ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ติดแม่น้ำโขง ตั้งแต่ จังหวัดเลย ไปจนถึงจังหวัดอุบลราชธานีเป็นหน่วยปฏิบัติ และตำรวจพลร่มค่ายนเรศวรเป็นหน่วยสนับสนุน ร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ,กองบัญชาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ,กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี, นบ.ยส.24, ปปส.ภาค 4, ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อสกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเสพติดในเขตพื้นที่ภาคอีสานตอนบน โดยเน้นการปฏิบัติ 3 ด้าน คือ ด้านที่ 1 ด้านการข่าว โดยการสืบสวนจับกุมดำเนินคดี ขยายผลเครือข่ายผู้ค้า ยึดทรัพย์ผู้ค้า ทั้งรายใหญ่ และรายย่อย ด้านที่ 2 การลาดตระเวนเฝ้าตรวจตามแนวชายแดน โดยเพิ่มความเข้มในการลาดตะเวนและนำเทคโนโลยีมาใช้ เช่น โดรนตรวจการ กล้องวงจรปิด ด้านที่ 3 การตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามเส้นทางคมนาคมที่กลุ่มกระบวนการใช้ในการลำเลียงยาเสพติด เพื่อเป็นการลดเสรีในการเคลื่อนที่ของผู้ค้า
ผลการปฏิบัติตั้งแต่ 16 กรกฎาคม 2567 – จนถึงปัจจุบัน มีการลาดตระเวนกว่า 1,050 ครั้ง จัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัด รวม 564 ครั้ง โดยสามารถจับกุมผู้กระทำผิด รวมทั้งสิ้น 188 คดี ผู้ต้องหา 202 คน ของกลาง ยาบ้า 13,507,169 เม็ด, ยาไอซ์ 232.60 กิโลกรัม, เฮโรอีน 14.22 กิโลกรัม, อาวุธปืน 12 กระบอก, รถยนต์ 9 คัน และรถจักรยานยนต์ 14 คัน และผลการจับกุมในพื้นที่ตอนในที่มีการนำเข้าจากพื้นที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้ รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ร่วมมือกันปฏิบัติการในครั้งนี้ อย่างจริงจังและเห็นผลเป็นรูปธรรม ซึ่งกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนจะได้ทำหน้าที่ปราบปรามจับกุมเครือข่ายผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติด รวมถึงสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ ในพื้นที่ชายแดนอย่างเข้มแข็ง เพื่อความผาสุกของประชาชนและความมั่นคงของชาติต่อไป