อำเภอเมือง ตำรวจตามรวบหนุ่มวัย 47 ปี ที่ไปก่อเหตุขโมยถังแก๊สหุงต้มของชาวบ้านไปจำนวน 2 ถัง แล้วหลบหนีไป เจ้าตัวสารภาพไม่ได้ตั้งใจ แต่วันนั้นนั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนแต่เหล้าหมดกลางวง จึงคิดหาเงินด้วยการขโมยถังแก๊สไปขายได้เงิน 1,300 บาทไม่คิดว่าแค่กินเหล้าขาดตอนจะทำให้ติดคุกได้
วันที่ 10 ก.ย. 2567 กรณี นางสาวจุฑาทิพย์ พนูริพันธ์ เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมือง บุรีรัมย์ ว่าถูกคนร้ายเข้าไปขโมยถังแก๊สหุงต้มที่อยู่ในบ้านไปจำนวน 2 ถัง แล้วหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 กย.ที่ผ่านมา
ต่อมา พ.ต.อ.จำรัส ศิริเลี้ยง ผกก.สภ.เมือง บุรีรัมย์ ได้สั่งการให้พ.ต.ท.สุชาติ วิชาสวัสดิ์ สารวัตร(สืบสวน)สภ.เมือง เร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ จนกระทั่งชุดสืบสวนไล่ตามกล้องวงจรปิดที่ปรากฏ
จนกระทั่งมาทราบว่าผู้ที่เข้าไปขโมยถังแก๊สจำนวน 2 ถังคือ นายสุชาติ นิลพันธุ์ หรือเก่ง อายุ 47 ปีที่อยู่ 613/16 หมู่7 หมู่7 ตำบลท่าอ่าง อำเภอโชคชัย จว.นครราชสีมา ได้ที่บ้านบ้านพักไม่มีเลขที่ บริเวณหลังทวีกิจซุปเปอร์เซ็นเตอร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จว.บุรีรัมย์ ก่อนจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามจุดที่ก่อเหตุ
โดยนายสุชาติ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เพราะจำนนด้วยหลักฐาน พร้อมกับสารภาพว่า จริงแล้วตนไม่เคยขโมยทรัพย์สินของใครมาก่อน แต่วันนั้น”สุราพาไป” เนื่องจากวันเกิดเหตุตนนั่งดื่มเหล้ากับเพื่อนที่บ้านพักรวม 3 คน หลังจากดื่มสังสรรค์กันอย่างสนุกสนานจนใกล้สว่าง แต่บังเอิญเหล้าหมด แต่ละคนต่างไม่มีเงิน ตนซึ่งมีอาการเมาอยู่แล้วจึงอาสาจะไปหาเงินให้ ขับรถจักรยานยนต์ของเพื่อนไปตามถนนต่างๆ ในตัวเมืองบุรีรัมย์ บังเอิญไปเห็น ถังแก๊สในห้องครัวข้างบ้านหลังหนึ่งที่มองแล้วขโมยได้ง่ายจึงเข้าไปขโมยใส่รถไปทีเดียว 2 ถัง แล้วเอาไปขายให้กับร้านค้าแห่งหนึ่งได้เงินมา 1,300 บาท แล้วเอาเงินไปซื้อเหล้ามาดื่มฉลองกันต่ออย่างสนุกสนาน ไม่คิดว่าแค่เหล้าไม่พอตนถึงกับโดนข้อหาลักทรัพย์
ด้าน นางสาวจุฑาทิพย์ พนูริพันธ์ ผู้เสียหายกล่าวว่า หลังจากถังแก๊สหายไป ส่วนหนึ่งคิดว่าไม่ได้คืนแน่ โดยเฉพาะคนร้ายที่ไม่คิดว่าตำรวจจะจับตัวได้