ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนระบายน้ำวังยาง พร้อมสั่งการทุกหน่วยงานเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมวลน้ำจากจังหวัดชัยภูมิ และขอนแก่นคาดอีก 6 วันถึงพื้นที่
เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2564 ผู้สื่อขาวรายงานว่า จากอิทธิพลพายุเตี้ยนหมู่ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในหลายจังหวัดในภาคอีสาน โดยเฉพาะพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ซึ่งพื้นที่พื้นที่ต้นน้ำของแม่น้ำชี ทำให้พื้นที่หลายจังหวัด ซึ่งอยู่พื้นที่ท้ายน้ำและมีพื้นที่ติดกับแม่น้ำชีต้องเฝ้าระวัง และเตรียมรับมวลน้ำที่จะไหลมา
ล่าสุดนายทรงพล ใจกริ่ม ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ นายเอกรัตน์ วิสา นายอำเภออำเภอฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำที่เขื่อนระบายน้ำวังยาง ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย จ.กาฬสินธุ์ เพื่อเฝ้าระวังและเตรียมความพร้อมรับปริมาณน้ำที่จะไหลมา โดยระดับน้ำในลำน้ำชีบริเวณเขื่อนระบายน้ำวังยาง ขณะนี้ประตูระบายน้ำของเขื่อนได้ทำการเปิดบานประตูทั้ง 6 บานในระดับสูงสุด เพื่อระบายน้ำในลำน้ำชี และลดผลกระทบที่จะได้รับจากการที่ลำน้ำชีมีปริมาณสูงขึ้น ซึ่งคาดว่ามวลน้ำจาก จ.ชัยภูมิ จ.ขอนแก่น และจ.มหาสารคาม จะเดินทางมาถึงบริเวณเขื่อนระบายน้ำวังยางในอีกประมาณ 6 วันข้างหน้า ทั้งนี้ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้ในอำเภอที่มีพื้นที่ติดกับลำชีให้แจ้งเตือนประชาชนระมัดระวังและเตรียมรับมือกับปริมาณน้ำที่จะสูงขึ้น
ขณะที่สถานการณ์น้ำในเขื่อนลำปาว จ.กาฬสินธุ์ ทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวรายงานสถานการณ์น้ำฝน-น้ำท่า จากอิทธิพลพายุดีเปรสชั่นเตี้ยนหมู่ และหย่อมความกดอากาศต่ำที่ผ่านมาล่าสุด มีปริมาณน้ำ ในอ่างเก็บน้ำ 921 ล้าน ลบ.ม. หรือ 46.53 % จากระดับกักเก็บที่ 1,980 ล้าน ลบ.ม. ยังสามารถรับน้ำได้อีก 1,058 ล้าน ลบ.ม.มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างล่าสุด 20 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนลำปาวลำน้ำสาขาเหนือเขื่อน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นผลดีทำให้มีน้ำเก็บกักในเขื่อนเพิ่มขึ้น