สุดทึ่งชายวัย 63 ปีชาวอำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ สู้ชีวิต เก็บของเก่ามารีไซเคิลเป็นชิ้นงานประติมากรรม ปั้นหุ่นพญาอินทรีย์ขยุ้มงูและมังกรบนต้นไม้สวยงาม เหมือนจริง ทั้งๆที่ไม่เคยฝึกฝนมาก่อน เผยฐานะยากไร้ ไม่มีที่ทำกิน ซ้ำเมียป่วยไตวาย 8 ปี จึงเกิดแรงบันดาลใจปั้นหุ่นขาย เพื่อหารายได้รักษาเมีย
เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้ง มีชายวัย 63 ปี ชาวบ้านแดงเจริญศิลป์ ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ปั้นหุ่นรูปสัตว์ขาย เพื่อหารายได้เป็นค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายรักษาภรรยา ที่เจ็บป่วยด้วยโรคไตวายมา 8 ปี ซึ่งสิ่งที่ชาวบ้านทึ่งและชื่นชมคือ ชายคนดังกล่าวมีความสามารถในการปั้นหุ่นได้สวยงาม เหมือนจริง ทั้งๆที่ไม่เคยไปฝึกฝนหรือศึกษาเล่าเรียนศาสตร์ด้านการปั้นหรืองานประติมากรรมมาก่อน ขณะที่อุปกรณ์ที่นำมาปั้นหุ่นนั้น ส่วนใหญ่ได้จากการเก็บของเก่ามารีไซเคิล ผลงานที่ผ่านมามีคนซื้อไปแล้ว 3 ชิ้นในราคาชิ้นละ 5,000 บาท ซึ่งขณะนี้กำลังลงมือปั้นหุ่นพญาอินทรีย์ขยุ้มงูเหลือม และปั้นหุ่นมังกรเกี้ยวต้นไม้ โดยมีชาวบ้านทยอยไปชมฝีมือ และให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากทราบจุดประสงค์ของชายคนดังกล่าวว่า ต้องการปั้นหุ่นขายเพื่อหารายได้เป็นค่าเดินทางและรักษาภรรยา
ผู้สื่อข่าวจึงได้ลงพื้นที่ ที่บ้านแดงเจริญศิลป์ หมู่ 3 ต.บัวบาน ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ติดพื้น อยู่ท้ายหมู่บ้าน พบชาวบ้านกว่า 10 คน ดูการปั้นหุ่นของชายคนดังกล่าว ทราบชื่อ “ลุงพิกุล” หรือนายพิกุล ภูคานา อายุ 63 ปี โดยมีนางติ๋ม ศรีตุ้ย อายุ 63 ปี ภรรยา ซึ่งสภาพร่างกายอิดโรย เนื่องจากอาการป่วยเป็นโรคไตวาย นั่งให้กำลังใจสามี
ลุงพิกุลหรือนายพิกุล ภูคานา กล่าวว่า ตนกับภรรยามีลูกด้วยกัน 2 คน แต่ก็ไปมีครอบครัวและไปขายแรงงานที่กรุงเทพฯ รายได้พอเลี้ยงตัว ตนสูงอายุแล้วจะไปขายแรงงานก็ไม่ไหว และต้องคอยดูแลภรรยาที่ป่วยไตวายมานานถึง 8 ปี ทรัพย์สินที่เคยมีก็ขายไปหมด เพราะเอาเงินมารักษาภรรยา ทุกวันนี้จึงไม่มีที่ทำกิน ที่ปลูกเรือนอยู่ก็เป็นที่สาธารณะ โดยผู้นำชุมชนและชาวบ้านอนุญาตให้เข้ามาอยู่ พอได้อาศัยบังแดดบังฝน หาเลี้ยงชีพด้วยการหาเก็บเศษไม้มาเผาถ่านขาย และตะเวนเก็บของเก่าขาย พอได้เงินซื้อข้าวและอาหารประทังชีวิต 2 คนผัวเมีย
ลุงพิกุลกล่าวอีกว่า เมื่อปลายปีที่ผ่านมา พาเมียไปรักษาที่โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ พบชายคนหนึ่งชาว จ.เชียงใหม่ ที่เดินทางมาเยี่ยมญาติที่โรงพยาบาล บอกเล่าเรื่องการปั้นหุ่นสัตว์แแบบง่ายๆ โดยไม่ต้องใช้ปูนหรือดินเหนียว แต่ใช้วัสดุประเภทลังกระดาษ โฟม ขี้เลื่อย กาว มาเป็นส่วนผสมสำหรับปั้นหุ่นได้ ตนจึงเกิดแรงบันดาลใจ เพราะอยากหารายได้มาจุนเจือครอบครัว จึงนำแนวคิดดังกล่าวมาลองทำ ทั้งนี้ ได้ดูรูปแบบและศึกษาวิธีการทำจากยูทูป ผสมกับจินตนาการที่คิดขึ้นเอง ขั้นแรกไปหาเก็บของเก่า เช่น รากไม้ กิ่งไม้ รูปร่างแปลกๆมาเป็นโครงสร้าง เก็บลังกระดาษ โฟม มาย่อยสลายด้วยน้ำมันเบนซิน ให้มีความเหนียวหรือบางครั้งใช้กาว นำมาผสมขี้เลื่อยที่ป่นจนละเอียด เพื่อปั้นเป็นหุ่นแทนการใช้ปูนหรือดินเหนียว เพื่อความแปลกใหม่ เป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบงานฝีมือ และไม่ซ้ำแบบใคร
“อาศัยครูพักลักจำ คิดไป ทำไป มองหน้าเมียที่เจ็บป่วยไป ก็มีกำลังใจฮึดสู้ ทำแบบลองผิดลองถูก โดยงาน 2 ชิ้นแรกปั้นรูปนกอินทรีย์ งานชิ้นที่ 3 เป็นรูปมังกรทอง มีคนมาซื้อไปชิ้นละ 5,000 บาท ได้เงินมาหมื่นกว่าบาท พอได้ค่าซ่อมแซมบ้านที่ทรุดโทรม และทำให้มีกำลังใจมากขึ้น ในการปั้นชิ้นที่ 4 ซึ่งได้กิ่งไม้ใหญ่เป็นโครงสร้าง จึงปั้นรูปพญาอินทรีย์ขยุ้มงูเหลือม และหุ่นมังกรเกี้ยวกิ่งไม้ ทั้งนี้ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม และหวังจะนำรายได้มาเป็นค่ารักษาภรรยาที่เจ็บป่วย โดยการปั้นใกล้เสร็จสมบูรณ์ เหลือเพียงขั้นตอนเก็บรายละเอียด และลงสีเท่านั้น” นายพิกุลกล่าว
อย่างไรก็ตาม จากการที่ลุงพิกลเป็นคนสู้ชีวิต และมีความรักมั่นคงต่อภรรยาที่เจ็บป่วย โดยเก็บของเก่ามารีไซเคิลเป็นผลงานประติมากรรม ปั้นหุ่นพญาอินทรีย์ขยุ้มงูเหลือมและมังกรเกี้ยวต้นไม้อย่างสวยงาม เหมือนจริง ทั้งๆที่ไม่เคยฝึกฝนหรือศึกษาเล่าเรียนศาสตร์ด้านการปั้นหรืองานประติมากรรมมาก่อน ชาวบ้านต่างชื่นชมในฝีมือ จึงใช้เวลาว่างมาแวะดูและให้กำลังใจตลอดวัน และอยากให้มีคนมาซื้อผลงานในราคาสูงๆ เพื่อจะได้เงินมาเป็นค่าเดินทางและค่ารักษาภรรยา ที่ป่วยเป็นโรคไตวายมานานถึง 8 ปีดังกล่าว