ศรีสะเกษ ทหารปืนใหญ่ลอยคอเข้าไปช่วยขนย้ายอุปกรณ์การสอนของโรงเรียนขณะที่ชุมชนท่าเรือบ้านเรือและชุมชนพันทาน้อยบ้านเรือนจมใต้น้ำ กว่า 187 หลังคาเรือน ภาพรวมทั้ง จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน 18,836 ครัวเรือน จำนวน 61,244 คน
เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมของ จ.ศรีสะเกษ ยังคงวิกฤติระดับน้ำยังคงท่วมสูงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย ส่งผลให้บริเวณชุมชนท่าเรือ ต.โพธิ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ และชุมชนพันทาน้อย ซึ่งอยู่ติดกับลำห้วยสำราญ มีบ้านเรือนของชาวบ้านถูกน้ำท่วมกว่า 187 หลังคาเรือน ชาวบ้านกว่า 300 คนต้องอพยพไปอยู่ศูนย์อพยพที่ราชการจัดไว้ให้ นอกจากนี้แล้วยังมีชาวบ้านตามหมู่บ้านต่าง ๆ ในเขต ต.น้ำคำ อ.เมืองศรีสะเกษที่ถูกน้ำท่วมรอบหมู่บ้าน และไม่ได้อพยพออกมาจากบ้านเรือนของตนเองจำนวนมาก ทางเทศบาลตำบลน้ำคำ ได้จัดรถบรรทุก 6 ล้อ มาช่วยในการรับส่งชาวบ้านที่ออกมาจากบ้านเพื่อเดินทางเข้าไปยังบ้านเรือนของตนเอง ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารปืนใหญ่ ป 106 จำนวนหนึ่งได้พากันลอยคอในน้ำที่ท่วมสูงเพื่อเข้าไปช่วยขนย้ายอุปกรณ์การเรียนการสอนต่าง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ ทีวี สมุดหนังสือ ออกมาจาก ร.ร.หลายแห่งเขต อ.เมืองศรีสะเกษที่ถูกน้ำท่วมสูง เพื่อนำเอาอุปกรณ์ออกมาใส่เรือขนย้ายไปไว้ในที่ปลอดภัย ซึ่งการดำเนินการขนย้ายเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากว่าระดับน้ำท่วมสูงและไหลเชี่ยวกรากมาก
นายสำรวย เกษกุล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จากการที่ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ นายพีระพงศ์ หมื่นผ่อง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ ได้รายงานที่ประชุมว่า สถานการณ์อุทกภัยข้อมูลสรุปดังนี้ ความเสียหาย ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 18,836 ครัวเรือน 61,244 คน ถนนทางหลวงศรีสะเกษที่ 1 ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัย ห้ามรถผ่าน จำนวน 13 สายทาง แนวโน้มสถานการณ์อุทกภัยได้รายงานและติดตามแบ่งตามสถานการณ์เป็นกลุ่มอำเภอที่คาดว่าจะมีมวลน้ำเพิ่ม กลุ่มอำเภอที่มีแนวโน้มน้ำทรงตัวและลดลง และกลุ่มอำเภอที่จะมีมวลน้ำลดลงเนื่องจากเป็นที่ต้นน้ำ ส่วนการให้ความช่วยเหลือมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยจนถึงขณะนี้จำนวน 1,598 ถุง ซึ่ง จ.ศรีสะเกษ จะได้เข้าไปให้การช่วยเหลือราษฏรที่ประสบภัยน้ำท่วมครั้งนี้อย่างเต็มที่