จังหวัดกาฬสินธุ์ใช้ยาแรงประกาศออกคำสั่งเด็ดขาด “ใครไม่ใส่หน้ากากอนามัย ปรับ 20,000 บาท” หลังพบประชาชนบางส่วนยังประมาทละเลยไม่สวมหน้ากาก พร้อมปล่อยแถวตรวจแนะนำผู้ประกอบการร้านค้ากำชับยึดตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ติดตั้ง QR CODE “ไทยชนะ” ให้ประชาชน สแกน เข้า-ออก ผ่อนปรนระยะที่ 2 ขณะที่ผู้ประกอบการร้านอาหารหลายแห่งตื่นตัว ดีใจพร้อมเปิดบริการ 1 มิถุนายนนี้
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อขาวรายงานว่า นายชัยธวัช เนียมศิริ ผวจ.กาฬสินธุ์ ได้ลงนามในประกาศ จ.กาฬสินธุ์ เรื่องให้ทุกคนในท้องที่ จ.กาฬสินธุ์สวมหน้ากาก (ฉบับที่ 5) ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2563 โดยเนื้อหาของประกาศระบุว่า เนื่องจากยังมีประชาชนจำนวนมากไม่สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ฝ่าฝืนประกาศ จ.กาฬสินธุ์ ฉบับที่ 4 ที่ยังคงมีผลบังคับใช้อยู่ ซึ่งการที่ไม่สวมหน้ากากนั้นอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะ อาจเป็นเหตุให้โรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แพร่ออก ดังนั้น จ.กาฬสินธุ์ โดยคณะกรรมการควบคุมโรคฯจึงมีประกาศให้ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทุกคนในท้องที่ จ.กาฬสินธุ์ สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่อออกจากเคหสถาน โดยผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ที่บริเวณมุขด้านหน้าศาลากลาง จ.กาฬสินธุ์ นายชัยธวัช เนียมศิริ ผวจ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนายสนั่น พงษ์อักษร รอง ผวจ.กาฬสินธุ์ นายจารึก เหล่าประเสริฐ รองผวจ.กาฬสินธุ์ นายธวัชชัย รอดงาม ปลัด จ.กาฬสินธุ์ นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ นพ.ประมวล ไทยงามศิลป์ ผอ.รพ.กาฬสินธุ์และส่วนราชการ รับมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 2,000 ชุด จากบริษัทเมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน)
จากนั้นนายชัยธวัช เนียมศิริ ผวจ.กาฬสินธุ์ เป็นประธานปล่อยแถวชุดจุดตรวจ ตามมาตรการผ่อนปรนในระยะที่ 2 จำนวน 4 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 ห้างสรรพสินค้า โดยศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จ.กาฬสินธุ์, จุดที่ 2 ร้านอาหาร โดยศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัดกาฬสินธุ์, จุดที่ 3 ร้านซุปเปอร์มาร์เก็ต โดยศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค เทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ และจุดที่ 4 โรงแรมและสถานที่ออกกำลังกาย โดยศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรค อ.เมืองกาฬสินธุ์
นายชัยธวัช เนียมศิริ ผวจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตามมาตรการผ่อนปรน ระยะที่ 2 ได้บูรณาการระหว่าง กองกำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ในนามศูนย์บริหารสถานการณ์ฯ และศูนย์ปฏิบัติการฯ โดยกระจายกำลังลงตรวจพื้นที่ จำนวน 4 จุด ดังกล่าว เพื่อให้แต่ละคณะได้ตรวจเยี่ยมการเปิดให้บริการตามมาตรการผ่อนปรนในระยะที่ 2 และประชาสัมพันธ์การใช้แอพพลิเคชั่น “ไทยชนะ” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับห้างร้านและลูกค้า ที่จะสามารถบอกสถานะความหนาแน่นของคนในร้านค้าที่มาลงทะเบียนบนเว็บ เป็นการช่วยลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อโควิด-19 ไม่ให้มีคนมาร้านจำนวนแออัดเกินไป
ทั้งนี้ เพื่อแนะนำให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิค– 19 ตามมาตรการหลักและมาตรการรอง ที่สามารถจัดให้มีการลงทะเบียนก่อนเข้า-ออก โดยใช้แอพพลิเคชั่น “ไทยชนะ” ทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือใช้มาตรการควบคุมด้วยการบันทึกข้อมูล และรายงานทดแทนด้วยจากการออกให้คำแนะนำ และสร้างการรับรู้ให้กับสถานประกอบการ ซึ่งพบว่าประชาชนยังคงปฏิบัติตามประกาศและข้อกำหนดของทางภาครัฐอย่างเคร่งครัด ยังคงมีสถานประกอบการบางรายที่ยังคงปิดกิจการ เนื่องจากยังไม่ได้เตรียมความพร้อมและแนวทางการดำเนินธุรกิจให้สอดรับกับมาตรการที่ทางภาครัฐกำหนด
นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า ในส่วนของประกาศฉบับที่ 5 นั้น จากการลงพื้นที่ พบว่า ยังมีประชาชนบางส่วนยังละเลยหรือตั้งอยู่ในความประมาท โดยไม่สวมหน้ากากเมื่อออกนอกบ้าน ซึ่งมีความเสี่ยงอาจจะติดเชื้อโรคโควิด-19 ขึ้นได้ ดังนั้นเพื่อให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญของการใส่หน้ากาก และเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อโรค ทางจังหวัดจึงได้ออกประกาศบังคับให้ทุกคนในพื้นที่จ.กาฬสินธุ์ สวมหน้ากาก หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท จึงขอให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนให้ความร่วมมือด้วย อย่างไรก็ตามแม้โทษปรับจะสูง แต่เพียงท่านหยิบหน้ากากมาใส่ ท่านก็ไม่มีความผิด