ชาวบ้านในจังหวัดกาฬสินธุ์ ให้ความสนใจโรงสีข้าวปิกนิก ราคาประหยัด น้ำหนักเบา สามารถเคลื่อนย้ายได้ คาดในยุคผลกระทบโควิด-19 ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะประหยัด พอเพียง ได้ประโยชน์ทุกส่วนของเมล็ดข้าวเปลือก ทั้งเมล็ดข้าวสวย ได้ทั้งปลายข้าว รำข้าว และไม่มีแกลบ
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการประกอบอาชีพและความเป็นอยู่ของประชาชนชาว จ.กาฬสินธุ์ ในช่วงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งในส่วนของการทำมาหากิน การครองชีพ และในกลุ่มผู้ที่รอรับเงินเยียวยา และกลุ่มที่ได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล ซึ่งมีความหลากหลาย แตกต่างกันไป
โดยที่ร้านซ่อมเครื่องยนต์การเกษตรแห่งหนึ่ง หน้าหมู่บ้านดอนอุดม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ถนนสายปากทาง-เขื่อนลำปาว ผู้สื่อข่าวพบชาวบ้านจำนวนหนึ่ง ให้ความสนใจเครื่องยนต์ชนิดหนึ่ง ซึ่งกำลังทดสอบสมรรถภาพการทำงาน จากการสอบถามทราบว่า เครื่องยนต์ดังกล่าวเป็นเครื่องสีข้าวปิกนิก ที่ใช้สำหรับสีเมล็ดข้าวเปลือก ถือเป็นยนตรกรรมตัวใหม่ ที่ได้จากภูมิปัญญาช่างโรงงาน น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย ประหยัดไฟ ที่เพิ่งนำมาเปิดตัวเป็นครั้งแรกในท้องถิ่นนี้
นายธวัชชัย ดีจันทร์ อายุ 52 ปี บ้านเลขที่ 16 หมู่ 17 บ้านดอนอุดม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เจ้าของร้านกล่าวว่า เครื่องสีปิกนิกดังกล่าวตนรับมาจากช่างโรงงานแห่งหนึ่งในตัวเมืองขอนแก่น เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้กับชาวบ้าน ในการนำมาสีข้าวสารไว้กินในครัวเรือน ซึ่งจะเหมาะสมมากในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่ชาวบ้านจะได้ไม่ต้องนำข้าวเปลือกไปสีตามโรงสีทั่วไป ที่ทำให้เกิดภาวะเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโควิด-19 และที่สำคัญคือ ประหยัด คุ่มค่าที่สุด
นายธวัชชัยกล่าวอีกว่า เครื่องสีข้าวปิกนิกดังกล่าวสีด้วยพลังงานไฟฟ้า เพียงเสียบปลั๊กก็สามารถเดินเครื่องได้ ประหยัดไฟ ประหยัดเวลา ไม่เกิดเขม่าควัน เมล็ดข้าวเปลือก 1 กระสอบหรือประมาณ 30 กก. ใช้เวลาสีประมาณ 20 นาทีเสร็จ จากเมล็ดข้าวเปลือก ก็จะถูกแปรสภาพเป็นข้าวสารที่ขาวสวย ไม่แตกหัก โดยระบบของโรงสี จะคัดแยกออกมาเป็นข้าวสาร ข้าวปลาย และรำข้าว ไม่มีแกลบ ทั้งนี้ ตนเห็นว่าจะเป็นยนตรกรรม ที่จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในอนาคต จึงติดต่อนำมาจำหน่ายและทดสอบประสิทธิภาพการใช้งาน ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวบ้านเป็นอย่างดี ที่สำคัญ ราคาไม่แพง เริ่มต้นเพียง 12,000 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ยังประหยัดไฟ ได้ทุกส่วนของเมล็ดข้าวเปลือก คือไม่มีส่วนใดทิ้งเลย
ด้านนางดวงใจ ยาญประเสริฐ อายุ 51 ปี ชาวบ้านร่วมเย็น หมู่ 15 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า วันนี้ตนนำเครื่องตัดหญ้ามาซ่อม เห็นเจ้าของร้านทดสอบการใช้งานเครื่องสีข้าวปิกนิก เห็นเข้าท่าดี จึงสนใจอยากจะได้ เพราะเห็นสีเมล็ดข้าวออกมาขาวสวย ได้ทั้งปลายข้าว และรำ ซึ่งถือเป็นความบังเอิญที่ลงตัวพอดี เพราะที่บ้านตนก็เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลาด้วย ซึ่งจากการสีข้าวด้วยเครื่องสีข้าวปิกนิกดังกล่าว จะได้ทั้งข้าวสารในปริมาณที่มากกว่านำไปสีตามโรงสีทั่วไป อีกทั้งยังจะได้เมล็ดข้าวสวยแล้ว ยังได้ทั้งปลายข้าว รำข้าว ไว้เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลาอีกด้วย
นางดวงใจกล่าวอีกว่า จากประสิทธิภาพของเครื่องสีข้าวปิกนิก ถือว่าเป็นสินค้าดี มีคุณภาพ ประหยัดและประโยชน์คุ้มค่า ตามวิถีพอเพียง ทั้งนี้ สำหรับเงินที่นำมาซื้อโรงสีปิกนิกดังกล่าว เป็นเงินที่รับการเยียวยาจากรัฐบาลพอดี ก็ต้องขอขอบคุณรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่มอบเงินเยียวยาจากผลกระทบโควิด-19 ให้ และเป็นโอกาสดีที่ตนจะได้มีเครื่องสีข้าวปิกนิก ไปใช้สีข้าวในครัวเรือนอีกด้วย