ผู้สูงอายุและชาวบ้านในจังหวัดกาฬสินธุ์ออกมาเตือนภัย หลังมีชายอ้างตัวเป็นทหาร ขับรถหรูตะเวนขายบัตรคอนเสิร์ตการกุศลอ้าง“เจ้านายสั่งมา” ขอเงินดื้อๆ รายละ 1-2 พันบาท เพื่อนำเงินช่วยเหลือทหารพิการ เรียกร้องเจ้าหน้าที่แกะรอยตรวจสอบด่วน
เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2563 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านหลายหมู่บ้าน ในเขต ต.ลำพาน อ.เมือง และ ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งกำลังวิพากษ์วิจารณ์และอยู่ในอาการตื่นตระหนก หลังจากมีชายอายุประมาณ 50 ปี ท่าทางภูมิฐาน อ้างตัวเป็นทหาร ขับรถแวน สีดำ ตะเวนขายบัตรคอนเสิร์ตการกุศล เก็บเงินค่าภาษีป้าย และขอตรวจเลื่อยยนต์ เพื่อเก็บเงินจากชาวบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ รายละ 1,000 – 2,000 บาท โดยอ้างว่าเป็นคำสั่งผู้ใหญ่ที่เป็นนายทหาร จึงเรียกร้องเจ้าหน้าที่ติดตามตรวจสอบ หวั่นเป็นแก๊งมิจฉาชีพฉวยโอกาสแอบอ้างหากินกับชาวบ้าน
นายประยูร ภูวนผา อายุ 76 ปี ชาวบ้านแดง หมู่ 3 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.63 เวลาประมาณ 11.00 น. ขณะที่ตนและนางแสงจันทร์ อายุ 70 ปี ภรรยา นั่งพักผ่อนอยู่กระท่อมกลางทุ่ง รอยต่อบ้านแดงกับบ้านตูม ได้มีชายคนหนึ่งรูปร่างสันทัด แต่งตัวท่าทางภูมิฐาน อายุประมาณ 50 ปี สวมเสื้อคอกลม สีขาว กางเกงสีดำ ขับรถแวน สีดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนเข้ามาจอดที่หน้ากระท่อม โดยชายคนดังกล่าว ได้แจ้งว่าเป็นทหาร ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ให้สอบถามเรื่องเลื่อยยนต์ที่ใช้ตัดไม้ ว่ามีทะเบียนถูกต้องหรือไม่ จากนั้นจะขายบัตรคอนเสิร์ตการกุศลให้ราคาบัตรละ 1,000 บาท และ 2,000 บาท เพื่อนำรายได้ช่วยเหลือทหารพิการ
นายประยูร กล่าวอีกว่า ช่วงนั้นตนกับภรรยาตั้งตัวไม่ติด เพราะจู่ๆก็มีคนอ้างตัวเป็นทหารและอ้างคำสั่งนายมาตรวจสอบและขายบัตรดังกล่าว ทำอะไรไม่ถูก ได้แค่บอกว่าตนหาเช้ากินค่ำ ไม่มีเลื่อยยนต์ และไม่มีเงินพอที่จะซื้อบัตรการกุศลดังกล่าว ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น และไม่เป็นความจริง อย่างไรก็ตามตนไม่มีเงินพอที่จะให้ชายคนดังกล่าว แต่ก็อยากจะให้และให้ความร่วมมือ เพราะปกติเป็นคนชอบทำบุญอยู่แล้วถ้าเป็นการกุศลจริงๆ แต่ถ้าจะให้ช่วย 1,000 หรือ 2,000 บาทนั้น ไม่มีให้ เพราะเกินขีดความสามารถ อีกทั้งตนเป็นผู้สูงอายุ เป็นชาวบ้านธรรมดา และหาเช้ากินค่ำ
ด้านนางแสงจันทร์ ภูวนผา อายุ 70 ปี ภรรยานายประยูร กล่าวว่า ชายคนดังกล่าวได้อ้างตนว่าเป็นทหาร และขอดูเลื่อยยนต์ รวมทั้งจะยัดเยียดขายบัตรคอนเสิร์ตการกุศลให้ ตนกับนายประยูรสามีบอกว่าไม่มีเงินให้ ถ้าจะให้ช่วยจะมีให้เพียง 100-200 บาทเท่านั้น แต่ชายคนดังกล่าวไม่รับยืนยันจะขอ 1,000-2,000 บาทเท่านั้น เมื่อเห็นว่าตนไม่มีเงินให้ตามจำนวนที่ต้องการ ชายคนดังกล่าวจึงกลับไป อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ตนจะไม่เสียเงินให้ แต่ก็รู้สึกหวาดผวา และกลัวว่าชายคนดังกล่าวอาจจะเป็นมิจฉาชีพ และฉวยโอกาสไปแอบอ้างเอาเงินกับชาวบ้านอีก จึงอยากให้เข้าหน้าที่ติดตามตรวจสอบด้วย
ขณะที่นายบัณฑิต ภูบุตรตะ อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 391 หมู่ 4 บ้านตูม ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า เหตุมีชายอ้างตัวเป็นทหารและอ้างมาตามคำสั่งนายมาตรวจสอบเลื่อยยนต์ และเก็บเงินค่าภาษีป้าย รวมทั้งขายบัตรคอนเสิร์ตการกุศลดังกล่าว ตนเชื่อว่าเป็นการแอบอ้าง และแสวงหาประโยชน์ส่วนตัว โดยเป็นมิจฉาชีพฉวยโอกาสหากินกับชาวบ้าน โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้หญิงอยู่บ้านคนเดียว โดยเฉพาะบ้านที่อยู่ริมถนน ที่เปลี่ยวและอยู่กลางทุ่ง
นายบัณฑิต กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีที่เกิดกับครอบครัวตน ซึ่งเกิดเหตุเวลาประมาณ 10.00 น. เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.63 ที่ผ่านมา ขณะที่นางลำไย ซึ่งเป็นภรรยาของตนอยู่บ้านคนเดียว โดยชายคนดังกล่าว ได้ขับรถแวน สีดำคันหรู มาจอดที่ริมถนนหน้าบ้าน แล้วเดินเข้ามาพูดคุยกับนางลำไยถึงภายในบ้าน ทำทีขอดูใบอนุญาตเลื่อยยนต์ ลักษณะเหมือนขอเก็บส่วยหรือภาษี รวมทั้งจะขายบัตรคอนเสิร์ตการกุศลให้ โชคดีที่นางลำไยไม่มีเงินให้ ชายคนดังกล่าวถึงรีบถอยออกไป อย่างไรก็ตาม เมื่อตนกลับมาบ้านและภรรยาเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง รวมทั้งมีชาวบ้านหลายคนเล่าให้ฟัง ตนเชื่อว่าอาจจะเป็นมิจฉาชีพ จึงอยากเรียกร้องเจ้าหน้าที่ติดตามและตรวจสอบพฤติกรรมชายคนดังกล่าวด้วย