ชาวบ้านในตำบลผาเสวย อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ เดือดร้อนหนัก หลังมีโจรแสบออกอาละวาดฉวยโอกาสคืนฝนตกและช่วงเคอร์ฟิวบุกเข้าไปขโมยข้าวเปลือกในยุ้งฉางในสัปดาห์เดียว 6 รายซ้อน ขณะที่สองตายายสุดช้ำทำนาทั้งปี แต่ถูกโจรขโมยคืนเดียวกวาดเรียบ 2 ตัน พร้อมระบุเป็นการกระทำที่อุกอาจ ก่อเหตุใกล้บ้านผู้ใหญ่บ้านและสามารถฝ่าด่านเคอร์ฟิวไปได้อย่างลอยนวล เรียกร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจไล่ล่าและจับตัวคนร้ายดำเนินคดี
เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2563 ที่บ้านขมิ้น หมู่ 8 ต.ผาเสวย อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ นายวิเศษ ตาปา รองนายกเทศมนตรีตำบลผาเสวย เข้าสอบถามนายบัว กั้ววิจิตร อายุ 83 ปี และนางปัญญา กั้ววิจิตร อายุ 68 ปี สองสามีภรรยา อยู่บ้านเลขที่ 84 หมู่ 8 หลังได้รับการร้องเรียนว่าถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวน ลักลอบขึ้นตัดกุญแจยุ้งฉางข้าวและขโมยข้าวเปลือกจำนวน 2 ตันจนเกือบหมด โดยเหตุเกิดตั้งแต่กลางดึกของคืนวันที่ 30 พ.ค.63 ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถจับคนร้ายมาดำเนินคดีได้
โดยบ้านของนายบัวและนางปัญญา กั้ววิจิตร ผู้เสียหาย อยู่กลางหมู่บ้านและอยู่ใกล้กับที่ทำการผู้ใหญ่เพียง 20 เมตร ซึ่งผู้เสียหายระบุว่า การกระทำของคนร้าย ไม่เพียงแต่จะทำให้ข้าวเปลือกจำนวน 2 ตัน ที่ทำนามาทั้งปีและตนกักตุนไว้เป็นอาหารเลี้ยงลูกหลาน 10 ชีวิต เพื่อพอกินคุ้มปีเสียหายไปเกือบหมดเท่านั้น ยังเป็นการกระทำที่อุกอาจและไม่เกรงกลัวผู้ใหญ่บ้านเลย โดยสันนิษฐานว่าคนร้ายเป็นวัยรุ่นในละแวกนี้ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วย ทั้งนี้ นายบัวและนางปัญญา กั้ววิจิตร ผู้เสียหาย ได้เปิดดูยุ้งฉาง ชี้ร่องรอยความเสียหาย โดยเหลือข้าวเปลือกเพียงนิดหน่อยเท่านั้น
นางปัญญา กล่าวทั้งน้ำตาว่า เหตุโจรขึ้นขโมยข้าวเปลือกในยุ้งฉางไป 2 ตันดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 30 พ.ค.63 ที่ผ่านมา คาดว่าเวลาประมาณ 22.00 น.-หลังเที่ยงคืน เป็นช่วงเคอร์ฟิว ซึ่งคืนนั้นฝนตกหนัก ทุกคนในบ้านนอนหลับ คนร้ายไม่ทราบจำนวนจึงถือโอกาสขึ้นตัดกุญแจประตูยุ้งฉาง และตักข้าวใส่กระสอบขึ้นรถหลบหนีไป เหลือไว้ดูต่างหน้าเพียง 3 กระสอบ และเมล็ดข้าวเปลือกที่เหลือนิดหน่อยตามพื้นเท่านั้น
นางปัญญา กล่าวอีกว่า ตนรู้ว่าข้าวเปลือกหายในตอนเช้าของวันที่ 31 พ.ค. ขณะที่จะมาขึ้นยุ้งฉางตักข้าวไปสี เห็นร่องรอยข้าวเปลือกถูกขโมยแล้วก็แทบจะเป็นลม รู้สึกเจ็บช้ำอย่างมาก เพราะเสียดายมาก เนื่องจากข้าวเปลือกที่ถูกคนร้ายขโมยไปนั้น ทำมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนกับนายบัวสามีที่เป็นคนแก่ สูงอายุ ทำนาสู้กับภัยธรรมชาติมาแรมปีกว่าจะได้ข้าวเปลือกใส่ยุ้งฉาง และจะเก็บกักตุนไว้เพื่อเลี้ยงครอบครัว ที่มีลูกหลาน จำนวน 10 ชีวิต ซึ่งกะว่าจะพอกินตลอดปี แต่ในเมื่อถูกคนร้ายขโมยไป คงไม่มีข้าวกินและไว้เลี้ยงลูกเลี้ยงหลานแน่ ซึ่งไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปซื้อข้าวกิน เพราะฐานะยากจน จึงอยากวิงวอนเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีด้วย เพราะผ่านมานานนับสัปดาห์แล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สมเด็จ ที่มาตรวจที่เกิดเหตุตั้งแต่เช้าวันที่ 31 พ.ค. ถึงวันนี้ ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้เลย
ด้านนายวิเศษ ตาปา รองนายกเทศมนตรีตำบลผาเสวย กล่าวว่า ตั้งแต่ปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาถึงต้นเดือน มิ.ย.นี้ ตนได้รับแจ้งจากชาวบ้านใน ต.ผาเสวยว่า มีเหตุคนร้ายลักขโมยข้าวเปลือกจำนวน 6 ราย เสียหายไปหลายตัน ซึ่งมีทั้งไปแจ้งความที่ สภ.สมเด็จ และที่ยังไม่เข้าแจ้งความ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในพื้นที่มาก่อน และเพิ่งจะเกิดอย่างถี่ๆในช่วงนี้ โดยคนร้ายฉวยโอกาสคืนฝนตกทำการลักขโมย อย่างไรก็ตาม สันนิษฐานว่าโจรที่ขโมยข้าวเปลือกชาวบ้าน เป็นวัยรุ่นมีพื้นที่ และมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งนี้ ตนได้บอกเตือนให้ชาวบ้าน ที่เก็บข้าวในยุ้งฉาง ได้เพิ่มความระมัดระวังโจรผู้ร้าย โดยปิดประตูให้แน่นหนาและนอนเฝ้า เพื่อป้องกันทรัพย์สินเสียหาย
นายวิเศษกล่าวอีกว่า เหตุคนร้ายลักขโมยข้าวดังกล่าว ถือเป็นภัยสังคม ที่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน ใน ต.ผาเสวยเป็นอย่างมาก ซึ่งบ่งบอกว่าช่วงนี้มีคนร้ายชุกชุม และมาตรการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่ยังมีช่องโหว่ โดยเฉพาะการก่อการของคนร้ายนั้น กระทำในช่วง พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือช่วงเคอร์ฟิว แต่คนร้ายยังสามารถลงมือและหนีลอยนวล จึงอยากเรียกร้องฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เฝ้าระวังและเพิ่มมาตรการเข้มงวดกวดขันด้วย เพราะชาวบ้านหวาดระแวงและเดือดร้อนมาก