ชาวบ้านตำบลบัวบาน อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ออกมาเรียกร้องกรณีนายทุนเข้าไปบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติดงระแนง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ คสช.ทวงคืนกลับมาแล้ว แต่ยังถูกนายทุนเข้าไปบุกรุกปลูกมันสำปะหลังหลายร้อยไร่ อย่างไม่เกรงกลัวอำนาจรัฐ หวั่นเกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมบ่อกุ้ง และพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายซ้ำซาก
จากกรณีชาวบ้านที่ จ.กาฬสินธุ์ผงะ ขณะ เข้าไปเก็บเห็ดและหาของป่าในบริเวณป่าสงวนแห่งชาติดงระแนง เขตอำเภอยางตลาด พบมีการบุกรุกและทำการปลูกมันสำปะหลังกลางป่าหลายร้อยไร่ ระบุเป็นพื้นที่ที่ คสช.ทวงคืนจากนายทุนเมื่อปี 2559 และมีการปลูกต้นไม้เพื่อฟื้นฟูสภาพป่า แต่หลังจาก คสช.กลับไป กลับมีการบุกรุกอย่างไม่เกรงกลัวอำนาจรัฐ ชาวบ้านเห็นแล้วรู้สึกเหมือน “รถถังกลับไปรถไถกลับมา” เรียกร้องฝ่ายปกครองตรวจสอบ พร้อมดำเนินคดีกับผู้บุกรุกอย่างจริงจังเด็ดขาด ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเด็นดังกล่าว ยังคงชาวบ้านได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก โดยมีความเคลือบแคลงสงสัยว่า เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นได้อย่างไร ในเมื่อทางฝ่ายทหาร ร่วมกับฝ่ายปกครอง ฝ่ายป่าไม้ และทุกภาคส่วน ได้บูรณาการโดยผลักดันนายทุนและชาวบ้านที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติดงระแนง พร้อมทั้งทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตลอดทั้งมีการปลูกป่าเพื่อฟื้นฟูสภาพป่าที่เสื่อมโทรมตั้งแต่ปี 2559 และต้นไม้ที่ปลูกไว้ กำลังเจริญเติบโต ความอุดมสมบูรณ์กำลังกลับฟื้นคืนมา แต่ภาพที่ปรากฏในวันนี้ กลับกลายเป็นแปลงปลูกมันสำปะหลังไปทุกตารางเมตร
นายสำรวย ภูใบบัง อายุ 59 ปี บ้านเลขที่ 372 หมู่ 4 ต.บัวบาน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ทุกวันนี้การบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติยังมีอยู่ เหมือนที่ผ่านมาไม่มีการทวงคืน และเหมือนไม่เคยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ฝ่ายปกครอง ป่าไม้ ประชาชน เข้าไปร่วมกันปลูกป่าเลย ชาวบ้านที่อยู่พื้นที่ด้านล่าง เช่น บ้านตูมหมู่ 4 และหมู่ 19 รวมทั้งประชาชนทั่วไปที่ใช้ประโยชน์จากผืนป่า โดยหาเก็บของป่าไปเป็นอาหารในครัวเรือน ต้องได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากไม่มีป่าไม้คอยดูดซับน้ำในฤดูฝน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ท่วมบ่อเลี้ยงกุ้งก้ามกราม และพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย แหล่งหาอาหารป่าแทบไม่มีเหลือ นอกจากนี้ ความแรงของกระแสน้ำป่า ยังกัดเซาะถนนเข้าหมู่บ้านและคอสะพานข้ามคลอง รวมทั้งคลองชลประทาน ได้รับความเสียหายซ้ำแล้วซ้ำอีก ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น ชลประทาน และเทศบาลตำบลบัวบาน ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณในการซ่อมแซมทุกปี ปีละหลายล้านบาท ซึ่งเป็นความลำบาก เดือดร้อน และสูญเสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์
นายสำรวยกล่าวอีกว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่ได้เกิดกระแสน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งต้นน้ำมาจากป่าดงระแนงที่เกิดจากการบุกรุก โดยนายทุนและชาวบ้านเข้าไปปลูกมันลำปะหลังและอ้อย ซึ่งน้ำป่าได้ไหลทะลักลงมาอย่างรวดเร็ว และไหลบ่าท่วมบ่อกุ้ง นาข้าวได้รับความเสียหายยับเยิน ต่อมามีการทวงคืนผืนป่าและมีการจัดโครงการปลูกป่าอย่างยิ่งใหญ่ ชาวบ้านทุกคนต่างดีใจที่จะได้ผืนป่ากลับคืนมา และเป็นปราการป้องกันปัญหาน้ำป่า แต่พอหลังจาก คสช.ถอนกำลังออกไปจากพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ กลับมีนายทุนเข้าไปบุกรุกเหมือนเดิม ซึ่งเหมือนเป็นการตลบหลังทหาร และอย่างไม่มีความยำเกรงกฎหมาย ซึ่งปัญหาที่จะตามมาอีกคือน้ำป่าไหลหลาก กัดเซาะถนนทรุดพัง ท่วมบ่อกุ้งและพื้นที่การเกษตรเสียหาย
นายสำรวยกล่าวเพิ่มเติมว่า ทุกวันนี้ตนและเพื่อนบ้าน ที่เป็นชาวนาผู้เลี้ยงกุ้งก้ามกรามและทำนาข้าว ตลอดทั้งผู้ที่ใช้ถนนสายนี้ ที่ตัดผ่านดงระแนง เชื่อมหลายหมู่บ้านและและทอดยาวไปถึงเขื่อนลำปาว กำลังอยู่ในอาการหวาดผวา บางคืนที่ฝนตกหนัก แทบไม่กล้านอน ต้องคอยระวังเหตุกลัวน้ำป่าไหลทะลักลงมาอีก อย่างไรก็ตาม จึงอยากเรียกร้องเจ้าหน้าที่ที่ทุกๆฝ่าย ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ และผลักดันนายทุนและชาวบ้านกลุ่มที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติดงระแนงด้วย เพื่อรักษาไว้ซึ่งสมบัติของแผ่นดิน และคงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายบ้านเมือง โดยเฉพาะในยุคที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี