เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ตามรวบหนุ่มวัย 44 ปี หลังเจ้าทุกข์โพสต์เฟซบุ๊กถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวน บุกขโมยตัดผ้าไหมในกี่ ที่ยังทอไม่เสร็จหายไป พร้อมแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตามจับกุมตัว คาดคนร้ายเป็นคนในพื้นที่ และมีส่วนข้องเกี่ยวกับยาเสพติด
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊คคนหนึ่งโพสต์ภาพและข้อความว่ามีคนร้ายเข้ามาขโมยตัดผ้าไหมในกี่ที่กำลังทอถึงหน้าบ้าน พร้อมเข้าแจ้งความกับตำรวจสภ.เมืองกาฬสินธุ์ เพื่อให้ช่วยติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุ
ล่าสุดที่สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ปริญญา คำเจริญ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พ.ต.ท.เอกกฤต กัลยาสนธ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ สั่งการให้ พ.ต.ท.สีหนาท จันทร์เหลือง สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ร.ต.อ.อมร เดชศรี รอง สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ร.ต.อ.อารมณ์ เจริญสรรพ์ รอง สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ จับกุมตัวนายเมธี หรือหำน้อย ละคร อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83 หมู่ 6 บ้านบึงวิชัย ต.บึงวิชัย อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ผู้ต้องหา พร้อมของกลางผ้าไหม 3 ผืน ยาบ้า 1 เม็ด
พ.ต.ท.สีหนาท จันทร์เหลือง สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านบึงวิชัย ต.บึงวิชัยว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวน บุกเข้าตัดผืนผ้าไหมในกี่ทอผ้าอยู่ใต้ถุนบ้าน พฤติการณ์เป็นการใช้ของมีคมตัดส่วนที่ทอเป็นผืนผ้าหายไป ความยาวประมาณ 6 เมตร มูลค่าประมาณ 6,000-9,000 บาท จึงโพสต์บอกเล่าความเสียหายและประกาศแจ้งเหตุผ่านทางเฟซบุ๊ก ก่อนเข้าแจ้งความที่สภ.เมืองกาฬสินธุ์
พ.ต.ท.สีหนาท กล่าวต่อว่า หลังได้รับแจ้ง จึงได้จัดชุดเจ้าหน้าที่สืบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว และสอบถามพยานบุคคล กระทั่งพบนายเมธีหรือหำน้อย ท่าทางมีพิรุธ ที่ใต้ต้นมะขาม หน้าบ้านไม่มีเลขที่ภายในบ้านบึงวิชัย หมู่ 6 เจ้าหน้าที่จึงความบริสุทธิ์ขอตรวจค้น พบยาบ้าสีส้ม 1 เม็ด ซ่อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ที่สวมใส่ในขณะตรวจค้น จากนั้นตรวจปัสสาวะพบผลเป็นสีม่วง เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายและเสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และจากการสืบประวัติ พบว่าเคยต้องคดีลักทรัพย์มาก่อน
พ.ต.ท.สีหนาท กล่าวว่า ในส่วนของการสืบสวนหาข่าวตามตัวคนร้ายลักขโมยผ้าไหมนั้น หลังจากพบตัวนายเมธีหรือหำน้อยผู้ต้องสงสัย ซึ่งท่าทางมีพิรุธดังกล่าว ได้ประสานเจ้าของผ้าไหมผู้เสียหาย ซึ่งสงสัยบุคคลดังกล่าวมาชี้ตัวและร่วมสอบถาม ก่อนที่นายเมธีจะให้การเบื้องต้นว่าไม่ได้ไปขโมยตัดผ้าไหม แต่ไปพบผ้าไหมซุกซ่อนอยู่ในกอไผ่ท้ายหมู่บ้าน จึงได้นำมาตัดแยกเป็น 3 ผืน แล้วฝากไว้และขายกับชาวบ้าน เนื่องจากตนมีอาชีพหาหน่อไม้และเก็บผักพื้นบ้านขาย เพราะไม่มีงานทำ
ด้านนายเมธีหรือหำน้อย ผู้ต้องหากล่าวว่า ตอนแรกตนไปพบผ้าไหมดังกล่าว ถูกซุกซ่อนอยู่ในกอไผ่โดยบังเอิญขณะหาหน่อไม้ ซึ่งเหมือนได้ของตกหล่น ด้วยความจน ไม่มีเงินซื้อข้าวกิน จึงไม่ได้คิดอื่นใดนอกจากคิดว่าจะนำขาย จึงรีบนำกลับบ้านและตัดแบ่งออกเป็น 3 ผืน จากนั้นเดินตะเวนขายในหมู่บ้าน แต่ไม่มีใครรับซื้อ ตนเห็นว่าจะต้องรีบไปหาหน่อไม้และเก็บผักตามป่าชุมชนไปขาย จึงนำผ้าไหมทั้ง 3 ผืนนั้นไปฝากไว้กับชาวบ้านก่อน ก่อนที่จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นและจับกุมดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นนายเมธีหรือหำน้อย ให้การภาคเสธ ว่าไม่ได้เป็นคนลงมือลักตัดผืนผ้าไหมในกี่ของชาวบ้าน แต่ภายหลังจากการสอบปากคำเพิ่มเติม นายเมธีหรือหำน้อยจึงยอมรับสารภาพ ว่าเป็นคนลงมือเอง เนื่องจากอยากได้ผ้าไหมไปขายหาเงินซื้อข้าวกิน เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถานครับอีกข้อหาหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป