สาวเจ้าของสวนเกษตร ชาวตำบลเขาพระนอน อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ ยืนยันได้ชำระปิดบัญชีกู้ยืมเงินกยศ.ตามที่เจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งแล้วในปี 2553 ท้วงข้อมูลที่ กยศ.และธนาคารแจ้งมาคลาดเคลื่อนกับที่ตนได้ไปติดต่อด้วยตนเอง ส่วนที่จะให้หาหลักฐานไปอ้างอิงนั้นตนพยายามหาแล้วแต่ไม่พบ เพราะผ่านมานานแล้ว 10 ปี วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบอีกครั้ง และให้ตั้งข้อสังเกตตอนที่ตนทำสัญญากู้กับ กยศ.ปี 2540 เป็นชื่อเก่า “สุพัตรา ภูทองใบ” เพิ่งมาเปลี่ยนชื่อใหม่ “จิตตานันท์ สุริยะพงษ์ธร” เมื่อปี 2555
จากกรณีหญิงวัย 47 ปี เจ้าของสวนเกษตรไร่ภูทองใบ ต.เขาพระนอน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ สุดงงได้รับใบทวงหนี้ กยศ.จำนวน 34,500 บาท ยืนยันจ่ายครบปิดบัญชีตั้งแต่ปี 2553 ระบุใบทวงหนี้จากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาโผล่มาหาตนได้อย่างไร วอนเจ้าหน้าที่ตรวจสอบให้ละเอียด กระทั่งทางกยศ.ได้ออกมาชี้แจง ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 28 สิงหาคม 2563 นางจิตตานันท์ สุริยะพงษ์ธร กล่าวว่า หลังจากนั้นเห็นว่า กยศ.ได้ออกมาชี้แจงว่า ผู้กู้รายดังกล่าวซึ่งหมายถึงตน ได้กู้ยืมในระดับอาชีวะศึกษาตั้งแต่ปี 2541 จำนวน 41,288 บาท ครบกำหนดชำระครั้งแรกปี 2544 ต่อมามีการชำระ 2 ครั้ง คือวันที่ 18 กันยายน. 2545 จำนวน 990 บาท และวันที่ 17 กรกฎาคม 2549 จำนวน 990 บาท ต่อมามีการดำเนินคดีในปี 2549 โดยศาลมีคำพิพากษาชำระเงินต้น 40,917.97 บาท พร้อมดอกเบี้ย ส่วนผู้ค้ำประกันให้ทำสัญญาประนีประนอม ตกลงชำระรายเดือนๆละ 600 บาท ชำระงวดแรกภายในเดือน ต.ค.49 และชำระงวดต่อไปทุกวันที่ 5 ของเดือน จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น หลังจากนั้นทราบว่ามีการชำระหนี้ตั้งแต่ปี 49-53 จำนวน 31 ครั้งเป็นจำนวนเงิน 32,930 บาท
นางจิตตานันท์ กล่าวอีกว่า ในหนังสือชี้แจงของ กยศ.ยังระบุอีกว่า ในส่วนที่ตนชำระปิดบัญชีในปี 2553 จำนวน 24,000 บาทนั้น พบว่าในปีดังกล่าว มีรายการชำระ 2 ครั้งที่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) คือวันที่ 14 กรกฎาคม 2553 เวลา 11.04 น. ชำระเงินจำนวน 990 บาท และวันที่ 14 ตุลาคม 2553 เวลา 15.17 น. ชำระจำนวน 3,000 บาท ขณะที่ในส่วนการตรวจสอบกับระบบชำระหนี้ของธนาคารกรุงไทย ไม่พบยอดชำระหนี้ปิดบัญชีจำนวน 24,000 บาท ตามที่ตนไปชำระที่สาขาสามพราน ในปี 2553 ดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันยังมีหนี้ค้างบัญชีจำนวน 34,853.09 บาท (ยอดหนี้ ณ วันที่ 26 ส.ค.63)
นางจิตตานันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ถึงขณะนี้ตนยังยืนยันว่าได้ชำระปิดบัญชีเมื่อปี 2553 ตามที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทย สาขาสามพราน แนะนำ ตอนที่จะเปิดสมุดบัญชีเล่มใหม่ ส่วนหนังสือชี้แจงของกยศ.นั้น ตนขอยืนยันว่า ไม่ตรงกับความเป็นจริงที่ตนได้ไปติดต่อดำเนินการด้วยตนเอง ทั้งจากการประสานเบื้องต้นกับเจ้าหน้าที่ กยศ.ทางโทรศัพท์ ว่าตนไม่ได้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย แต่หนังสือชี้แจงกลับบอกว่าเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ยในปี 2549 และชื่อตนเป็นพนักงานที่บริษัทแห่งหนึ่งในเขตสาทร กรุงเทพฯ แต่ความจริงตนเป็นเกษตรกรอยู่บ้าน แต่ทางกยศ.และธนาคาร ก็ยังจะให้ตนหาหลักฐานการชำระหนี้และหลักฐานตอนไกล่เกลี่ยไปยืนยัน ซึ่งตนไม่สามารถให้ได้ ถึงแม้จะใช้ความพยายามอย่างไรก็ไม่พบ และมารดาที่เป็นคนไปชำระแทนทุกเดือนก็เสียชีวิตไปแล้ว เพราะเวลาผ่านมา 10 ปีดังกล่าว จึงอยากจะขอร้องให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง เพราะข้อมูลคลาดเคลื่อน ไม่ตรงกัน และขอยืนยันอีกครั้งว่า ตนชำระเงินกู้ กยศ.ครบแล้ว
อย่างไรก็ตาม นางจิตตานันท์ยังกล่าวอีกว่า ตนทำสัญญากู้ยืมกับ กยศ.ช่วงปี 2540-41 วงเงินประมาณ 50,000 บาท ตอนนั้นใช้ชื่อนางสาวสุพัตรา ภูทองใบ มาเปลี่ยนชื่อเป็นนางสาวสุชาดา ภูทองใบ เมื่อปี 2548 มีหนังสือแจ้งหนี้และให้ไปไกล่เกลี่ยเข้าสู่กระบวนการประนอมหนี้ในปี 2549 ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าหนังสือทวงหนี้ระบุชื่ออะไร เพราะตนทำงานอยู่ต่างประเทศ และทราบว่าหลังไกล่เกลี่ยแล้วมารดาเป็นผู้ไปชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยที่ธนาคารกรุงไทย สาขากาฬสินธุ์ ต่อมาในปี 2553 ไปเปิดบัญชีใหม่และชำระปิดบัญชีเงินกู้ กยศ.ที่ธนาคารกรุงไทย สาขาสามพราน จ.นครปฐม และเปลี่ยนชื่อครั้งหลังสุดว่านางจิตตานันท์ สุริยะพงษ์ธร ในปี 2555 ทิ้งช่วงไปน่านถึง 10 ปี เพิ่งจะได้รับหนังสือทวงหนี้จาก กยศ.ดังกล่าว ซึ่งชื่อนามสกุลอาจจะไปตรงกับบุคคลอื่นหรือไม่ จึงอยากให้ตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง