เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 9 พ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมือง เขตเทศบาลนครขอนแก่น นายสุเทพ มณีโชติ รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานปล่อยขบวนรณรงค์ประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ส.ส.ประจำปี 2566 ซึ่ง กกต.ขอนแก่น ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ได้กำหนดจัดกิจกรรมขึ้น โดยมีประชาชนชาว จ.ขอนแก่น,อาสาสมัครประชาธิปไตย,อสม.,ลูกเสือ และ รด.อาสา กกต.เข้าร่วมกิจกรมรวมกว่า 600 คน
นายสุเทพ มณีโชติ รอง ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า กิจกรรมบิ๊กเดย์ ซึ่ง กกต.ได้กำหนดจัดขบวนรณรงค์ขึ้นทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น วันนี้เป็นแนวทาการดำเนินงานที่กระตุ้นเตือนและเน้นย้ำให้คนขอนแก่นและคนไทยทั้งประเทศได้ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันในวันที่ 14 พ.ค.จะถึงนี้กันอย่างพร้อมเพรียงและคึกคัก ซึ่งขณะนี้การจัดเตรียมการเลือกตั้งนั้น กกต.ได้มีการประสานงานร่วมกับ กกต.เขตทั้ง 11 เขตของ จ.ขอนแก่น ในการเตรียมการจัดการเลือกตั้งด้านต่างๆกันอย่างพร้อมเพรียงและครบถ้วนแล้ว ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ขอนแก่นมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งสิ้นประมาณ 1.4 ล้านคน ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้คาดว่าจะมีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งมากกว่าร้อยละ 80
ขณะที่นายวัชระ สีสาร ผอ.สน.กกต.จว.ขอนแก่น กล่าวว่า ในกิจกรมครั้งนี้ได้มีวิธีการสาธิตการลงคะแนนเลือกตั้ง โดยบัตรสีม่วง เลือก ส.ส.เขต และบัตรสีเขียว เลือก ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ รวมทั้งการเน้นย้ำการในเรื่องของการกากบาทลงคะแนนว่าอันใดคือบัตรดีและบัตรเสีย ซึ่งได้รับความสนใจและความร่วมมือจากผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมที่จำไปถ่ายทอดให้กับคนในครอบครัวและคนในชุมชนได้รับทราบจนนำมาสู่การออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.ที่จะถึงนี้กันอย่างคึกคัก ขณะเดียวกันขณะนี้สำนักทะเบียนกลางได้มีการส่งเอกสารถึงเจ้าบ้านในการแจ้งถึงเขตเลือกตั้ง หน่วยเลือกตั้ง รวมทั้งรายชื่อของบุคคลภายในบ้านที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง ส่งให้กับเจ้าบ้านตามเลขที่ทะเบียนบ้านแล้ว จึงขอให้เจ้บ้านทุกหลังคาเรือนได้ทำการตรวจสอบเอกสารรายชื่อดังกล่าวว่าถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งหากจะเพิ่มชื่อหรือถอนชื่อ นั้นไม่สามารถกระทำได้เพราะห้วงเวลาแล้ว แต่สามารถแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักบานได้โดยเฉพาะรายชื่อบุคคลอื่นที่เพิ่มเข้ามาในทะเบียนบ้าน
“ เรามักจะเรียกว่ารายชื่อผีโผล่เข้ามาในทะเบียนบ้าน ดังนั้นเจ้าบ้านจะต้องตรวจสอบเอกสารให้ดีว่ามีบุคคลใดที่ไม่รู้จักมีรายชื่อในทะเบียนบ้านของตนเองซึ่งขอให้นำเอกสารดังกล่าวไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเพื่เป็นการป้องกันตนเองที่อาจจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดดังกล่าว หากมีการตรวจสอบหรือการสืบสวนสอบสวนเกิดขึ้น ซึ่งแม้ว่าขณะนี้จะยังคงไม่พบสิ่งผิดปกติหรือการร้องเรียนใดๆแต่เจ้าบ้านหรือตัวบุคคลจะต้องรักษาสิทธิ์ของท่านและร่วมกันตรวจสอบเพื่อเป็นการป้องกันในภาพรวม”
นายวัชระ กล่าวต่ออีกว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ กกต.ได้เปิดโอกาสให้ผู้แทนพรรคการเมือง สามารถเข้าไปสังเกตุการณ์ในหน่วยเลือกตั้งได้ ซึ่ง กกต.เขตทั้ง 11 เขตได้กำหนดที่นั่งให้ผู้แทนพรรคการเมืองที่ถูกแต่งตั้ง นั้นนั่งอยู่ในหน่วยเลือกตั้งใกล้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เพื่อที่จะสามารถตรวจสอบการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย หรือการทักท้วงด้านต่างๆได้ทันที ซึ่งถือเป็นกระบวนการตรวจสอบ ที่ กกต.นั้นเปิดกว้างให้กับทุกพรรคการเมืองและภาคประชาชนที่จะมีส่วนร่วมในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ให้มีความโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรมและเป็นที่ยอมรับในภาพรวม