พ่อเมืองบุรีรมย์เอาจริง สั่งดำเนินคดีทันทีรายแรกมือเผาไร่อ้อย ฝ่าฝืนประกาศจังหวัดห้ามเผาเด็ดขาดป้องกันฝุ่น PM 2.5 ที่ส่งผลต่อคุณภาพอากาศและสุขภาพ ปชช. พร้อมคาดโทษกำนัน ผญบ.ในพื้นที่ปล่อยปะละเลยให้มีการเผา ย้ำทุกพื้นที่เร่งประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านเกษตรกรรับทราบถึงประกาศและปฏิบัติตามเคร่งครัด
วันที่ 21 ก.พ. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่ นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ตรวจพบการเผาไร่อ้อย ที่บ้านสีชวา ม.7 ต.ไผทรินทร์ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 19 ก.พ.2567 ช่วงเวลาประมาณ 18.30 น. จึงได้สั่งการให้ฝ่ายปกครอง ตำรวจ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าตรวจสอบพื้นที่ จากการตรวจสอบเป็นการเผาไร่อ้อยประมาณ 4 ไร่ สอบถามผู้ใหญ่บ้าน บ้านสีชวา หมู่ที่ 7 ตำบล ผไทรินทร์ ทราบว่าเจ้าของไร่อ้อยคือ นายนิคม ชาว ต.หนองกระทิง อ.ลำปลายมาศ ถือเป็นการฝ่าฝืนประกาศเรื่องการห้ามเผาของทางจังหวัด หลังจากได้มีการออกประกาศ เรื่อง ห้ามเผาโดยเด็ดขาดในทุกพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ประจำปี พ.ศ.2567 ลงวันที่ 19 ก.พ.2567 ผู้ฝ่าฝืนจะมีความผิดตาม พ.ร.บ. ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550 ม. 15,29,52 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 2,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
จากนั้นจึงได้มีการนำตัวนายนิคม มาพบพนักงานสอบสวน สภ.ลำปลายมาศ โดยนายนิคม ให้การสารภาพว่าได้เผาอ้อยของตนเองจริงเพื่อตัดส่งโรงงานน้ำตาล พนักงานสอบสวน จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “ฝ่าฝืนคำสั่งผู้อำนวยการจังหวัดตามประกาศจังหวัดบุรีรัมย์ ประจำปี 2567 ฯ ซึ่งนายนิคมให้การสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 2,000 บาท ตามคดี เปรียบเทียบเทียบที่ 134/2567 ลงวันที่ 20ก.พ.5267
ในส่วนของที่ทำการปกครองอำเภอลำปลายมาศ ในฐานะผู้บังคับบัญชาของกำนันผู้ใหญ่ บ้านในเขตพื้นที่อำเภอ ได้ดำเนินการสอบสวน ปค. 14 และคาดโทษ/และว่ากล่าวตักเตือน นายสมจิตร ทองเชิด กำนันตำบลผไทรินทร์ และนายมีทรัพย์ สมบูรณ์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านสีชวา หมู่ 7 รวมถึงได้ตักเตือนเน้นย้ำให้กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน สอดส่องดูแลพื้นที่รับผิดชอบ และประชาสัมพันธ์ผ่านหอกระจายข่าวประจำหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนทราบถึงข้อกฎหมายกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ตามประกาศของจังหวัดบุรีรัมย์ อีกทั้งเน้นย้ำให้ดำเนินการตามหนังสือสั่งการ /วิทยุสื่อสารที่อำเภอลำปลายได้สั่งการลงไป และถือปฏิบัติตามข้อสั่งการและแนวทางในการปฏิบัติอย่างเคร่งครัดด้วย
ในปัจจุบันสถานการณ์ไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM.2.5) ในท้องที่จังหวัดบุรีรัมย์ เริ่มส่งผลต่อคุณภาพอากาศ และสุขภาพของประชาชนติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะมีความรุนแรงมากขึ้น ก่อให้เกิดผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน สาเหตุมาจากการเผาในพื้นที่เกษตรกรรม พื้นที่ป่าไม้ ที่สาธารณประโยชน์ จึงเอาจริงกับการห้ามเผาโดยเด็ดขาด