ประชาสัมพันธ์

ผู้ว่าฯ นครพนม นำทีมตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ประจำด่าน พร้อมลงพื้นที่แนะประชาชนใส่หมวกนิรภัยก่อนการขับขี่ทุกครั้ง

เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จังหวัดนครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามจุดตรวจจุดสกัด และด่านชุมชนต่าง ๆ ในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อำเภอเมืองนครพนม อำเภอธาตุพนม และอำเภอเรณูนคร พร้อมสอบถามสถานกาณ์การเดินทางในพื้นที่ สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างทำหน้าที่รวมถึงแนวทางการแก้ไข เพื่อให้การป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2566 เป็นไปอย่างมีประสิทธิ์ภาพสูงสุด ทำให้ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจากการใช้รถใช้ถนน

นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ก่อนอื่นต้องขอกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกนาย ที่ได้เสียสละเวลาอันมีค่าที่จะได้อยู่กับครอบครัวและบุคคลอันเป็นที่รักมาปฏิบัติหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชน จนทำให้สถิติการเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตของจังหวัดนครพนมลดลง ซึ่งในห้วง 2 วันที่ผ่านมาสถิติการเกิดอุบัติเหตุของจังหวัดนครพนมยังคงเป็นศูนย์ นั่นหมายถึงมาตรการ 3 ด่าน คือ ด่านครอบครัว ด่านชุมชน และด่านหลัก ที่ทุกคนได้ทำตามแผนร่วมกันมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี แต่ก็มีข้อมูลจากการใช้มาตรการทางกฎหมายที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการเรียกตรวจ ทำให้พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ที่ใช้รถใช้ถนนในพื้นที่ยังไม่มีการหมวกนิรภัย ทั้งที่การสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนนของประเทศไทยในแต่ละปีส่วนหนึ่งเป็นการเสียชีวิตจากการบาดเจ็บที่ศีรษะของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ และการสวมหมวกนิรภัยหรือหมวกกันน็อคจะช่วยป้องกันและลดความรุนแรงจากการบาดเจ็บที่ศีรษะของผู้ใช้รถจักรยานยนต์ได้ขณะประสบอุบัติเหตุ ดังนั้นในวันนี้นอกจากการตรวจเยี่ยมจุดตรวจจุดสกัด และด่านชุมชนแล้ว จึงถือโอกาสลงพื้นที่เยี่ยมพบปะกับประชาชนในพื้นที่ เพื่อสอบถามความคิดเห็นในแนวทางการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ว่ามีส่วนไหนควรปรับปรุงเพิ่มเติม รวมถึงการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เกี่ยวกับแผนปฏิบัติการทั้งหมดที่จังหวัดกำลังดำเนินการอยู่ และฝากย้ำเตือนในการสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งก่อนการขับขี่เพราะเป็นหัวใจสำคัญของการลดการบาดเจ็บที่ศีรษะได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ยังมีการแนะนำเพื่อป้องปราม ควบคุมไม่ให้บุตรหลานที่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ขับขี่ได้ออกมาใช้รถใช้ถนนที่นำมาซึ่งความเสี่ยงและผลเสียต่อบุคคลอื่น ๆ เนื่องจากหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาบุตรหลานที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องรับโทษแล้ว พ่อแม่หรือผู้อนุบาลก็ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน